หลายคนมีความเชื่อว่า การกินเจหรือการงดรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ จะเป็นการสร้างบุญสร้างกุศล ส่งผลให้ชีวิตประสบความสุขความเจริญ และเป็นการต่อชีวิตให้ยืนยาวต่อไปด้วย แต่ถึงแม้อาหารเจจะเป็นอาหารสุขภาพ เนื่องจากมีผักผลไม้และคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลักในเมนูอาหาร แต่หากบริโภคไม่ได้สัดส่วน และไม่ถูกตามหลักโภชนาการย่อมนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้
พญ.อยุทธินี สิงหโกวินท์ แพทย์หัวหน้าศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลพญาไท 2 อธิบายว่า การรับประทานอาหารเจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุจะต้องระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารเป็นพิเศษ เพราะโดยส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาท้องอืด อาหารไม่ย่อยเป็นพื้นฐานเดิมตามวัยอยู่แล้ว หากทานผักผลไม้ที่มีกากใยมากเกินไป ก็จะทำให้มีปัญหาเรื่องท้องอืดมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี่ยงการทานผักผลไม้ที่มีกากใยมากๆ รวมถึงผักสด เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดหอม หากจะรับประทานควรปรุงให้สุกก่อน
สำหรับผู้สูงอายุที่ชอบรับประทานอาหารเจจำพวกผัดๆ ทอดๆ หรือมีส่วนผสมของแป้ง และนำไปทอดในน้ำมันปริมาณมาก ซึ่งแน่นอนว่า ร่างกายจะได้รับสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและไขมันที่สูงเกินความจำเป็น ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีปัญหาโรคไขมันในเลือดสูงอีกด้วย และอาจจะมีปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ ตามมา
นอกจากนั้นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ก็ควรระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของแป้ง หรือรสชาติหวานมันมากเกินไป เช่นเดียวกับผู้สูงอายุที่เป็นโรคไต ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารเจที่มีรสเค็ม การรับประทานอาหารเจสำหรับผู้สูงวัย ควรได้รับสารอาหารครบถ้วนและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ในปริมาณที่พอเหมาะ เน้นรับประทานอาหารเจจำพวก ต้ม นึ่ง ย่าง ยำ เลี่ยงอาหารทอด หรือผัด ร่วมกับการรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ ก็จะทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีทั้งกายและใจตลอดเทศกาลกินเจ
