นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 ประกอบด้วย 3 มาตรการ อย่างแรกเป็นการกระตุ้นอุปสงค์ โดยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการผลิตและบริการภายในประเทศ นำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ผ่านการให้สิทธิประโยชน์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ซึ่งจะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% สำหรับกิจการที่นำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการบริการ โดยให้ขยายครอบคลุมไปถึงประเภทกิจการที่ใช้เทคโนโลยีไม่สูงมากนัก ซึ่งเดิมไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับการส่งเสริม
“ขณะที่กระทรวงการคลังจะยกเว้นภาษีเงินได้ 300% เพื่อการวิจัยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รวมทั้งทางสำนักงบประมาณจะสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพื่อบริการประชาชน และกระทรวงอุตสาหกรรมให้การสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่ใช้หุ่นยนต์มาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตซึ่งมาตรการแรกนี้จะช่วยให้เกิดการลงทุนใช้หุ่นยนต์วงเงิน 12,000 ล้านบาทในปีแรก”
ส่วนมาตรการที่สอง เป็นการสนับสนุนอุปทาน โดยเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศ โดยเฉพาะผู้ทำหน้าที่ออกแบบติดตั้งระบบอัตโนมัติ (System Integrator) ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนจากปัจจุบันอยู่ที่ 200 ราย เป็น 1,400 รายภายใน 5 ปี โดยบีโอไอจะให้สิทธิประโยชน์สูงสุด ขณะที่กระทรวงการคลังจะยกเว้นอากรนำเข้าชิ้นส่วน และอุปกรณ์ที่นำมาผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
ส่วนมาตรการสุดท้าย เป็นการพัฒนาบุคลากรและยกระดับเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ นำไปสู่การผลิตหุ่นยนต์ประเภทอื่นๆที่มีความซับซ้อน โดยจัดตั้งศูนย์เครือข่ายความเป็นเลิศด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เป็นเครือข่ายความร่วมมือของ 8 หน่วยงานนำร่อง มีเป้าหมายภายใน 5 ปี จะพัฒนาหุ่นยนต์ต้นแบบอย่างน้อย 150 ผลิตภัณฑ์ ถ่ายทอดเทคโนโลยีหุ่นยนต์ชั้นสูงให้แก่ผู้ประกอบการจำนวน 200 ราย และฝึกอบรมบุคลากรไม่น้อยกว่า 25,000 คน