แม้จะปิดฉากรูดม่านเรียบร้อยโรงเรียนนิชิโอะฯแล้วสำหรับงานมหกรรมรถบรรทุกนานาชาติประเทศไทย ครั้งที่ 2 หรือ Thailand International Truck Show 2017 (TTS 2017) ที่มีบรรดาค่ายรถใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ ผู้ประกอบการขนส่ง รวมถึงเจ้าของธุรกิจเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่คุณค่าภาคขนส่งและโลจิสติกส์ต่างตบเท้าเข้าร่วมงานคับคั่ง ระหว่างวันที่ 8-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
แต่ที่ยังไม่จบแบบ Happy Ending และส่อเค้าร้อนระอุแดดลุกลามบานปลายกลายเป็น“มหากาพย์ความขัดแย้ง”ทั่วท้องทุ่งสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย (LTFT)ที่มีพ่อใหญ่ทองอยู่ คงขันธ์ นั่งหัวหลักหัวตอเป็นประธานบริหารจัดการองค์กรภายใต้ภูมิปัญญาระดับดร. ดีกรีที่ได้มาเพราะใฝ่รู้ใฝ่เรียนล้วนๆ
เรื่องของเรื่องก็มาจากการที่สหพันธ์ฯพร้อมสมาชิกสมาคมฯต่างๆมีมติเอกฉันท์ประกาศ “คว่ำบาตร” ห้ามกรรมการบริหาร คณะกรรมการบริหารและที่ปรึกษาฯ เข้าร่วมงาน TTS 2017 หรือมหกรรมงานรถบรรทุกนานาชาติ ครั้งที่ 2 ที่จัดโดยนิชิโอะฯ อย่างเด็ดขาด
การประกาศกึกก้องชัดยิ่งกว่า Super HDไม่ร่วมสังฆกรรมครั้งนี้ ไม่ใช่ละเลงอยู่ในวงจำกัดแค่หมู่มวลสมาชิกสมาคมฯเท่านั้น “พ่อใหญ่ทองอยู่” ยังพองอำนาจด้วยวิสัยทัศน์สุดหรูออกหนังสือเวียนไปถึงพันธมิตรที่เป็นค่ายรถต่างๆและซัพพลายเออร์ทั้งหลายหวังดึงเข้าก๊วนสร้างอภิมหาพลังการบอยคอตครั้งให้มีน้ำหนักและแน่นหนาเอาไว้
จองกฐินสามัคคี นิชิโอะฯ อุดมการณ์ หรือ…ผลประโยชน์?
ปฏิบัติการบอยคอต TTS 2017 เริ่มก่อร่างสร้างตัวมานานแล้วหลังสหพันธ์ฯรู้สถานะชัดว่าจะไม่ได้อยู่ในสถานะเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญต่อการจัดงานครั้งนี้ อาจจะด้วยมูลเหตุที่สหพันธ์ฯผิดหวังและเสียความรู้สึกอย่างแรงที่นิชิโอะฯปฏิเสธเงื่อนไขที่สหพันธ์ฯเคยยื่นข้อเสนอเงินสนับสนุน 30 ล้านในการร่วมจัดงานฯ หรืออาจด้วยอุดมการณ์หรือแนวทางที่ชัดเจนของสหพันธ์ฯภายใต้ภูมิปัญญาของท่านประธานทองอยู่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมงานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ดูรวมๆแล้วก็อาจเป็นไปได้ทั้ง 2 มูลเหตุ แต่หากเพิ่งพินิจด้วยความน่าจะเป็นแล้ว ใครต่อใครก็น่าจะหยั่งรู้และเทน้ำหนักไปที่มูลเหตุแรกมากกว่า!
ดังนั้น เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการจัดงานฯ พ่อใหญ่ทองอยู่ จึงร่อนจม.ถึงประธานที่ปรึกษา กรรมการบริหาร คณะกรรมการ และที่ปรึกษาฯ รวมถึงพันธมิตรฯผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนทั้งหลาย ที่อ้างถึงหนังสือสหพันธ์ฯที่ สขบท 0030/2560 ลง22/05/60 ที่ระบุว่าสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยมีมติชัดเจนไม่ต้องตีความและขยายความอื่นใดอีก
“สหพันธ์ฯไม่เข้าร่วมงานและกิจกรรมใดๆกับบริษัท นิชิโอะเร้นฯในการจัดงานครั้งนี้โดยเด็ดขาดและคณะกรรมการบริหาร ไม่ได้มอบหมายให้ใครผู้หนึ่งผู้ใดเข้าร่วมงานหรือทำกิจกรรมแต่ประการใด”ส่วนกิจกรรมของ ATF ที่เข้าไปร่วมงานกับบริษัท นิชิโอะเร้นท์ฯถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานที่บริษัทนิชิโอะเร้นท์จัดขึ้นฯและเป็นงานเดียวกันคณะกรรมการบริหาร กรรมการบริหารและที่ปรึกษาฯลฯ ไม่ควรเข้าร่วมงานจะในสถานะใดเพราะถือว่าไม่เหมาะสมและเป็นการฝ่าฝืนและไม่เคารพมติของสหพันธ์ฯที่สมาชิกทุกสมาคมเห็นร่วมกันและมีมติในวันเวลาดังกล่าว
ถ้าทุกคนไม่เคารพมติแล้วอ้างเหตุผลต่างๆนานาต่อไปการทำงานของสหพันธ์ฯก็จะยุ่งยากลำบากขึ้นและทุกๆท่านต้องรับผิดชอบร่วมกัน
ใครไปแอบอ้างชื่อของสหพันธ์ฯไมว่าทางตรงหรือทางอ้อมและทำให้องค์เสียหายบุคคลเหล่านั้นจะต้องรับผิดชอบในทางคดีต่อไป
การแจ้งมาในครั้งนี้ถือว่าน่าจะมีความชัดเจนและหวังว่าทุกๆท่านน่าจะเข้าใจในเรื่องดังกล่าวคือ
“คือไม่เข้าร่วมงานทุกกรณีในนามสหพันธ์ฯในทุกๆกิจกรรม”
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ดร.ทองอยู่ คงขันธ์
ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย
27/05/60@17.33น.
แต่เอาจริงพอถึงวันการจัดงานก็ยังมีบรรดาค่ายรถใหญ่ต่างๆที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีและเคยสนับสนุนสหพันธ์ฯตบเท้าเข้าร่วมงานครั้งนี้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ไม่ว่าจะเป็นมหาอำนาจรถใหญ่เมืองไทยอย่างค่ายอีซูซุและฮีโน่ พันธมิตรต่อพ่อของหลายๆสมาคมฯหรือแม้ค่ายไอวีโก้ของ “เฮียดอน-สุขสมเกียรติ เสือกลิ่นศํกดิ์”ที่เป็นเพื่อนรักซี้ย่ำปึ๊กของบรรดาอาเฮียในสมาคมฯต่างๆก็ยิ้มฟันขาวพาเหรดรถร่วมงานด้วยเช่นกัน แถมยังมีคนใหญ่คนโตที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯแหกด่านประกาศิตพ่อใหญ่ทองอยู่เข้าร่วมงานกันหลายท่าน
ไม่ว่าจะเป็น“เฮียเปี๊ยก-ขวัญชัย ติยะวานิช”อดีตนายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน หรือแม้แต่ “เฮียวรวิทย์ เจริญวัฒนพันธ์”อดีตนายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น“ผู้ปลุกปั้นและผลักดัน”พ่อใหญ่ทองอยู่ให้ดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฯมากับมือก็ยังไม่วายเข้าร่วมงานครั้งนี้อย่างหน้าชื่นตาบาน
LTFTปะทะ ATF ช่วงชิง 2 ขั้วมหาอำนาจขนส่ง
ฟากฝั่งประมุขสิบล้ออาเซียน“เฮียยูเจียรยืนยงพงศ์” ประธานสหพันธ์การขนส่งทางรถบรรทุกแห่งอาเซียน หรือ ATF อีกหนึ่งจิ๊กซอว์ที่ถูกมองว่าเป็นคู่บาดหมางกับฝั่งสหพันธ์ฯกับปมฉาวครั้งนี้ก็กึ๋นระดับเซียนเหยียบเมฆที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานักต่อนัก มีหรือจะออกอาการเป๋ให้เห็น ใช้ความนิ่งสงบสยบความทุกความเคลื่อนไหว ไม่สนเสียงนกเสียงกาที่ไหนและไม่เก็บไว้ให้หนักกบาล ยังเดินหน้าทำหน้าที่ในฐานะประมุขสิบล้ออาเซียนอย่างหนักแน่น พร้อมเป็นคีย์แมนคนสำคัญในการจัดประชุมประจำปี 2017พร้อมฉลองสมาชิกครบ 10 ประเทศอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่ภายในงาน TTS 2017 รุกจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล วางเป้าร่วมประชุม IRU World Congress และยังมั่นใจว่าสมาชิก 10 ชาติอาเซียนจะไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งวาระที่ 2 อีกด้วย
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ATF ที่มีอยู่ทุกวันนี้ได้ก็เพราะการจัดงาน TTS 2015 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครึ่งแรกในไทย โดยการจัดงานครั้งนั้น สหพันธ์ฯโดยเฮียยู(เป็นประธานสหพันธ์ฯในเวลานั้น) ได้ผนึกกำลังกับบรรดาสมาคมขนส่งต่างๆรวมตัวกันเป็นหนึ่งพันธมิตรสำคัญในการจัดงานครั้งนั้น โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินมาก้อนหนึ่งจากนิชิโอะฯ และภายในงานก็ได้ผูกมิตรกับบรรดาผู้ประกอบการขนส่งในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนเพื่อจัดตั้งสหพันธ์การขนส่งทางรถบรรทุกแห่งอาเซียน หรือ ATF ขึ้น
และที่สำคัญผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ ATF เป็นรูปเป็นร่าง และถูกตั้งความหวังให้เป็น “คนรุ่นใหม่”เพื่อการสานต่องาน ATF ในอนาคต หลายท่านที่แม้ในวันนั้นยังยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กับเฮียยู อีกทั้งยังถูกวางเป็นคีย์สำคัญในการจัดสัมมนาในครั้งนี้อีกด้วย แต่วันนี้กลับไปอยู่ฝั่งสหพันธ์ฯจนตกอยู่ใน“ภาวะน้ำท่วมปาก” เหตุมีตำแหน่งเกาะแน่นอยู่กับฝั่งสหพันธ์ฯ ผนวกกับกฎเหล็กที่พ่อใหญ่ทองอยู่ประกาศกร้าวงัดออกมาแล้ว ก็ยิ่งสร้างความลำบากในการวางตัวและขยับตัวเป็นทวีคูณ
อย่างไรก็ดี เวลาต่อมาเฮียยูก็ผงาดขึ้นนั่งเป็นประธานเป็นคนแรกของATFหลังหมดวาระการเป็นประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ซึ่งต่อมาพ่อใหญ่ทองอยู่ คงขันธ์ ก็ได้นั่งตำแหน่งประธานสหพันธ์ฯแทนตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.2559
ขณะที่กิจกรรมของ ATF ที่เข้าไปร่วมงานกับนิชิโอะฯถูกสหพันธ์ฯมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานที่นิชิโอะฯจัดขึ้นและเป็นงานเดียวกัน แปลให้เข้าใจง่ายๆเมื่อสหพันธ์ฯคว่ำบาตรนิชิโอะฯก็เท่ากับว่าคว่าบาตร ATF โดยปริยายฉันใดก็ฉันเพล
เมื่อ AFT ที่ถูกตีแสกหน้าว่าเป็นลิ่วล้อของนิชิโอะฯ ที่พุ่งเป้าเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งขององค์กร พร้อมขยายความร่วมมือจนครบ 10 ชาติอาเซียน และไหนๆก็จัดการประชุมใหญ่ในประเทศไทยพร้อมกับงาน TTS 2017 แล้ว ประมุขสิบล้ออาเซียนยูก็มุ่งหวังดีและต้องการให้ผู้ประกอบการขนส่งไทยเข้าร่วม เพื่อประสานความร่วมมือก่อประโยชน์ด้านภาคขนส่งร่วมกัน
ขณะที่ประมุขสิบล้อไทยทองอยู่ เมื่อเกมพลิกก็ไม่มีวันยอมเสียเปรียบแน่นอน พร้อมเปิดตำราสู้ทุกวิธีทางจนกระทั่งทิ้ง“ไพ่ใบสุดท้าย”ร่อนหนังสือห้ามเข้าร่วมงานนี้โดยเด็ดขาด พร้อมส่งหนังสือเวียนย้ำเจตนาชัด ไม่เข้าร่วมงานของนิชิโอะฯ ถึงพันธมิตรที่เคยสนับสนุนสหพันธ์ฯ ประหนึ่งแฝงนัยสำคัญ “บีบพันธมิตรและซัพพลายเออร์ต่างๆ”ทางอ้อมให้เข้าข้างฝั่งตัวเอง
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงถูกมองว่าเป็นการชิงไหวชิงพริบหวังกุมอำนาจไว้ในอ้อมกอดอย่างเบ็ดเสร็จของ 2 ขั้วมหาอำนาจขนส่ง จนกลายเป็นความบาดหมางระหว่าง 2 องค์กร หรือแม้กระทั่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าาเป็นความขัดแย้งของ 2 ประมุขสิบล้อทั้งไทยและอาเซียน?
ผลประโยชน์บังตา?
ปมร้อนนี้สร้างแรงกระเพื่อมให้ประชาคมในสหพันธ์ฯแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า ลิ่วล้อสมุนบริวารที่เห็นด้วยก็รุมขยี้ซ้ำ แต่ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ตัวพ่อบางท่านเตือนสติควรใช้เหตุผลแก้ปัญหา ขณะที่บางท่านไม่อยากจะรับรู้อะไรให้ปวดกบาลก็ใช้“อุเบกขาธรรม”เข้าข่ม ขณะที่บางท่านไม่เห็นด้วยก็ปูดเหตุผลปมสหพันธ์ฯเคยของบกับทางนิชิโอะฯเพื่อร่วมงานนี้มากถึง 30 ล้าน แต่นิชิโอะฯไม่อาจให้ได้ เลยเป็นเหตุผลให้สหพันธ์ฯ“บอยคอต” ใช่หรือไม่?
“บางท่านก็ปูดว่าอย่าเอาความบาดหมางส่วนตัวของคนไม่กี่คนมาสร้างแตกแยกของคนหมู่มากในสหพันธ์ฯ ตอบโต้กันไปมาทางไลน์กลุ่มคณะกรรมการบริหารฯแทบลุกเป็นไฟ และมีข้อความไลน์หลุดว่อนออกมาข้างวงสนทนา และกลายเป็น Talk of the town เม้ามอยหอยสังข์สนุกสนานสนั่นวงการขนส่งไทย”
‘เฮียเตี้ย’ ไขก๊อกลาออกจาก “ประธานที่ปรึกษาฯ”
ปมร้าวฉานนี้ร้อนคุกรุ่นและปั่นป่วนหนักถึงขนาดที่ “เฮียเตี้ย”ศุภศักดิ์ รุ่งเจิดฟ้า ผู้มากบารมีถิ่นปากน้ำโพที่เคยหนุนหลังสหพันธ์ฯยังต้องไขก๊อกยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นที่ประธานที่ปรึกษาฯแต่จะด้วยเหตุผลจากเผือกร้อนดังกล่าวนี้หรือไม่ เพราะในหนังสือฯไม่ระบุถึงเหตุผลการลาออกที่ชัดเจน ทิ้งปริศนาให้พี่น้องขนส่งไปคิดเอาเองว่าเพราะเหตุใดเฮียเตี้ยถึงตัดสินใจ “โบกมือลา” ตำแหน่งประธานที่ปรึกษาฯ
ถึงกระนั้น แต่คนวงในเชื่อกันว่าน่าจะมาจากรอยร้าวในสหพันธ์ฯขยายกว้างเป็นปมขัดแย้งที่ยากจะหาจุดลงตัวที่สมดุลได้ อีกทั้งวันเวลายังไล่เลี่ยกับห้วงเวลาการจุดพลุความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอีกด้วย
ซ้ำรอยปฏิบัติการ “บีบไข่สื่อ”
ปฏิบัติการคว่ำบาตรครั้งนี้ก็ไม่ต่างอะไรเมื่อครั้งปฏิบัติการสายฟ้าแลบ “บอยคอต” นิตยสารสายรถใหญ่สำนักหนึ่งเมื่อปีที่แล้วไม่ว่าจะเป็นการหยุดให้-รับข่าว ซ้ำรายกว่านั้นก็ลากซัพพลายเออร์ที่ลงโฆษณาในสื่อฉบับดังกล่าว ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเข้าร่วมปฏิบัติการ “บีบไข่สื่อ” ให้หน้าเขียวหน้าดำ ด้วยการยื่นคำขาดหากสื่อฉบับดังกล่าวไม่แสดงความรับผิดชอบ ก็จะไม่ซื้อสินค้าที่ลงโฆษณาในสื่อฉบับนั้นอีกต่อไป
ประหนึ่งเป็นการ “เชือดไก่ให้ลิงดู”หวังขยี้สื่อให้จมธรณี ด้วยการชูวิสัยทัศน์สวยหรูเพื่อปกป้องสมาพันธ์ฯ และสร้างความเป็นเอกภาพของสมาชิกฯ พร้อมกันยื่นคำขาดบีบให้สื่อแสดงความรับผิดอย่างใดอย่างหนึ่ง หากมิเช่นนั้นจะสามัคคีชุมนุมกัน “ไม่ซื้อ-ไม่ใช้”ทุกสินค้าที่ลงโฆษณาในสื่อฉบับดังกล่าว
แม้ในที่สุดสื่อเองจะยอมนัดเจรจาพูดคุยในเงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่าย “OK” แล้วก็ตาม แต่ผลพวงจากปมร้อนนี้ได้สร้างรอยร้าวระหว่างสหพันธ์ฯกับสื่อจนยากจะประสานให้แผลสนิทได้จนถึงทุกวันนี้!
ท้ายที่สุดแล้ว ความขัดแย้งในสหพันธ์ฯจะถึงจุดจบและลงอย่างไร ยังต้องจับตาเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่เห็นชัดๆยิ่งกว่า Super HD ที่สะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขั้น นั่นก็คือเรื่องของ“ภาวะผู้นำ”ล้วนๆไม่มีอะไรเจือปน
หลายเหตุการณ์ภายใต้การกุมบังเหียนของพ่อใหญ่ทองอยู่ ถูกวิพากษณ์วิจารณ์หนักถึงวิธีแก้ปัญหา ที่ไร้ความเหมาะสมและละมุนละม่อม ทั้งที่เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเพียบพร้อมด้วย “วัยวุฒิและคุณวุฒิ”แต่วิธีการแก้ปัญหาสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ขวบปีกว่าๆที่นั่งตำแหน่งประมุขสิบล้อไทยอุดมด้วยขัดแย้งและแตกแยกแบ่งฝั่งแบ่งฝ่าย ไม่ได้สร้างเอกภาพให้กับองค์กรสมกับวดีเด็ดที่พรั่งพรูออกจารูปากของท่านในวันแรกที่ตำแหน่งแต่อย่างใด
อีกทั้งผลงานส่วนมากก็ล้วนมุ่งเน้นการสร้างคอนเนคชั่นหวังปูทางให้กับตัวเองก้าวเข้าสู่ “เส้นทางการเมือง” ไม่ได้เป็นไปและเอื้อประโยชน์ให้กับสหพันธ์ฯจนเป็นที่ “เอือมระอา” ของคนในสหพันธ์ฯบางส่วน และขยายวงกว้างออกไปสู่สังคมวงนอก
เมื่อทั้งหลายทั้งปวงได้สังวาสกันอย่างเมามันจนเกิดมหาดราม่าตูมตามถึงขนาดเขย่าเอกภาพของสหพันธ์ฯสะเทือนแล้ว ประมุขสิบล้อไทย“ดร.ทองอยู่ คงขันธ์” ก็น่าจะหมด “ความชอบธรรม” ที่จะดื้อเกาะเก้าอี้ประธานสหพันธ์ฯอีกต่อไป
หรือผู้หลักผู้ใหญ่ในสหพันธ์ฯจะฝึกฝนบารมีด้วยขันติธรรมทนดูสหพันธ์ฯองค์กรที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน ซึ่งท่านทั้งหลายกอดคอร่วมสุขทุกข์สร้างมากับมือ
…..จะใจร้ายปล่อยให้สหพันธ์ฯ“นั่งเบียดความตกต่ำ”ตามยถากรรมเช่นนี้ต่อไปหรืออย่างไร?
