ขบ. เผย 3 แรก(15-17 พ.ค. 60)จับ-ปรับรถตู้ที่นั่งเกิน 13 ที่นั่งตามมาตรการด้านความปลอดภัยและคุ้มครองสิทธิผู้โดยสาร พบรถตู้โดยสารใน กทม. กระทำความผิดรวม 95 ราย เป็นความผิดไม่แก้ไขการจัดวางไม่เกิน 13 ที่นั่ง จำนวน 30 ราย เปรียบเทียบปรับในอัตราเบื้องต้นทุกราย พร้อมกำชับให้ดำเนินการให้ถูกต้อง คู่ขนานกับการสร้างความเข้าใจ และให้คำแนะนำการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะ กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ พร้อมกับขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการในการปรับปรุงแก้ไขการจัดวางที่นั่งผู้โดยสารในรถตู้โดยสารสาธารณะทุกประเภทให้มีที่นั่งไม่เกิน 13 ที่นั่งมาอย่างต่อเนื่อง และเริ่มดำเนินการบังคับใช้กฎหมายแบบเป็นขั้นตอน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นมา หากพบการฝ่าฝืน ไม่ดำเนินการปรับปรุงจำนวนที่นั่ง มีความผิดในอัตราโทษปรับเบื้องต้น รวมถึงประเด็นความผิดเกี่ยวกับการจัดวางรูปแบบที่นั่งแถวหลังสุดให้มีช่องทางเดิน ขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร เพื่อใช้เป็นทางเดินออกประตูด้านท้ายของรถได้สะดวกขึ้น โดยประตูหลังต้องสามารถเปิดออกจากภายในตัวรถได้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นหรือเกิดอุบัติเหตุและมีค้อนทุบกระจก และมีข้อความ “ทางออกฉุกเฉิน” ติดอยู่เหนือบริเวณที่เปิดปิดประตู หรือบริเวณขอบประตูด้านบนทางออกฉุกเฉินให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ บริเวณจุดจอดรถตู้ในกรุงเทพมหานคร อาทิ สถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 แห่ง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตลาดมีนบุรี ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และใต้ทางด่วนบางนา ในภาพรวมพบว่าผู้ประกอบการและเจ้าของรถตู้ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการให้บริการ และมีบางส่วนที่ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการปรับปรุง ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 15-17 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา พบรถตู้กระทำความผิดรวมทั้งสิ้น 95 ราย เป็นความผิดฐานไม่ปรับปรุงแก้ไขเบาะที่นั่งเกิน 13 ที่นั่ง จำนวน 30 ราย โดยได้เปรียบเทียบปรับในอัตราขั้นต่ำ 500 บาท พร้อมกำชับให้ดำเนินการให้ถูกต้อง และแจ้งมาตรการการบังคับใช้กฎหมายซึ่งจะมีความเข้มข้นขึ้นกับรถตู้ที่กระทำความผิดซ้ำ เช่น เปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด พิจารณาพักใช้ใบอนุญาตขับรถ คู่ขนานกับการสร้างความเข้าใจ การรับรู้ ตลอดจนการให้คำปรึกษา สร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการเพื่อให้เกิดความร่วมมือยั่งยืน และเกิดความปลอดภัยในระยะยาว สำหรับความผิดอื่นๆ เช่น ไม่นำรถเข้าตรวจสภาพตามรอบที่กำหนดจำนวน 24 ราย ไม่มีอุปกรณ์ส่วนควบตามที่กำหนด จำนวน 17 ราย บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง จำนวน 10 ราย ผิดเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบการฯ เกี่ยวกับเส้นทางเดินรถ จำนวน 1 ราย และความผิดอื่นๆ อีก 13 ราย ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามข้อหาความผิดแล้วทุกราย
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของรถตู้ที่ปรับปรุงแก้ไขจำนวนที่นั่งผู้โดยสารแล้ว ให้นำรถเข้ารับการตรวจสภาพและแก้ไขรายการทางทะเบียนตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด สำหรับรถตู้โดยสารประเภทประจำทางในเส้นทางหมวด 2 (เส้นทางกรุงเทพ-ต่างจังหวัด) และหมวด 3 (เส้นทางระหว่างจังหวัด) ให้ดำเนินการภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2560 รถตู้ในเส้นทางหมวด 1 (เส้นทางในเมือง) และหมวด 4 (เส้นทางภายในจังหวัด) ให้ดำเนินการภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 และรถตู้โดยสารประเภทไม่ประจำทาง (รถเช่าเหมา) ให้ดำเนินการภายในวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ทั้งนี้ หากพบการฝ่าฝืนจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดทุกกรณี หากประชาชนพบเห็นรถตู้ไม่ปลอดภัย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแจ้ง 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง