กรมทางหลวงชนบท(ทช.)ชวนเช็กอินชมความงามสะพานบนถนนเฉลิมบูรพาชลทิต จังหวัดระยอง – จันทบุรี ดื่มด่ำประสบการณ์ท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับความสนุกสนานทะเลฝั่งอ่าวไทย
นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 3 (ชลบุรี) แขวงทางหลวงชนบทระยอง และแขวงทางหลวงชนบทจันทบุรี เชิญชวนประชาชนเที่ยวชมและเก็บภาพความงามของสะพานประแสสิน จังหวัดระยอง และสะพานตากสินมหาราช จังหวัดจันทบุรี บนถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ถือเป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด
สะพานประแสสิน จังหวัดระยอง เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพทั้งฝั่งทะเลและชุมชนประแส มีความยาว 2,090 เมตร ซึ่งทำให้เปลี่ยนแปลงการสัญจรระหว่างบ้านแหลมสน และปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง สู่การสัญจรทางบกเพื่อย่นระยะเวลาในการเดินทางของทั้งสองฝั่งให้สั้นลง เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เช่น ทุ่งโปรงทอง อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ “เสด็จเตี่ย” รวมถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิตของประชาชนจังหวัดระยองสู่จันทบุรีและตราดได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 เมื่อมาถึงจังหวัดชลบุรี มาตามถนนจะพบกับทางแยกไปจังหวัดจันทบุรีไปอำเภอแกลง (ด่านบ้านบึง) จากนั้นเบี่ยงออกซ้าย เพื่อใช้เส้นทาง ทล.344 มุ่งหน้าจังหวัดจันทบุรี ขับต่อไปถึงจังหวัดระยองประมาณ 80 กิโลเมตร จะถึงอำเภอแกลง และเข้าสู่ ทล.3 (ถนนสุขุมวิท) เลี้ยวซ้ายจนถึงแยกประแสร์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ระยะทาง 4 กิโลเมตร แล้วตรงไป โดยใช้เส้นทางถนนเฉลิมบูรพาชลทิต รย.4036 ขับมาเรื่อย ๆ จะเจอกับสะพานประแสสินจุดเช็กอินปากน้ำประแสมนต์เสน่ห์แห่งจังหวัดระยอง หลังจากเช็กอินและชมความงามของปากน้ำประแสแล้ว สามารถเดินทางต่อไปยังสะพานตากสินมหาราช ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี หรือ “สะพานแหลมสิงห์” เป็นสถานที่สำคัญและเป็นที่นิยม บริเวณสะพานมีทัศนียภาพอันงดงาม มองเห็นภูเขาโดยรอบและหมู่บ้านชาวประมง ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว สะพานมีความยาวประมาณ 1,060 เมตร ทอดยาวข้ามแม่น้ำจันทบุรี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังศาลเจ้าพ่อแหลมสิงห์ และหาดแหลมสิงห์ที่อยู่ใกล้เคียงได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ทช. ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังจุดหมายได้อย่างสะดวกปลอดภัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน ทช. โทร. 1146