“สุรพงษ์” เน้นย้ำรถโดยสาร ขสมก.ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด พร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยโดยเฉพาะรถโดยสารเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) หวังสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้ผู้ใช้บริการ
นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เน้นย้ำความปลอดภัยของรถโดยสารทุกคัน พร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย โดยเฉพาะรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ซึ่ง ขสมก. มีรถโดยสารประเภทดังกล่าว 809 คัน แบ่งเป็น รถโดยสารปรับอากาศ NGV แบบชานต่ำ (สีฟ้า) 486 คัน และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู NGV (สีส้ม) 323 คัน โดย ขสมก. ได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยรองรับสถานการณ์กรณีเกิดเหตุอัคคีภัยบนรถโดยสาร ดังนี้
1) ด้านรถโดยสารประจำทาง ต้องผ่านการตรวจสภาพรถตามมาตรฐานที่กำหนดทุกคัน มีการบำรุงรักษารถโดยสารและตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบเป็นประจำ เพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ก่อนให้บริการทุกครั้ง มีการตรวจสอบถังดับเพลิง ประตูฉุกเฉิน ประตูหน้า – หลัง ค้อนทุบกระจกภายในรถโดยสาร ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการตรวจสอบวันหมดอายุของถังก๊าซและสภาพถังให้มีความสมบูรณ์
2) ด้านพนักงานประจำรถ จัดให้มีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีเกิดเหตุอัคคีภัยบนรถโดยสารให้กับพนักงานขับรถโดยสาร พนักงานเก็บค่าโดยสาร และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถเป็นประจำ กำชับให้สามารถปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้อง เช่น การให้ความช่วยเหลือผู้ใช้บริการขณะเกิดเหตุ การอพยพผู้ใช้บริการลงจากรถอย่างปลอดภัย การใช้งานถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจกอย่างถูกต้องและการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือ อาทิ โรงพยาบาล หน่วยงานกู้ชีพ
3) ด้านการให้ความช่วยเหลือเยียวยา กรณีมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขสมก. มีกระบวนการชดเชยค่าเสียหายและเยียวยา ทั้งในส่วนของความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองผู้ประสบภัยที่ ขสมก. ได้จัดทำไว้
ทั้งนี้ ขสมก. ให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของผู้โดยสาร จึงจัดทำ VDO แผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน การซ้อมเสมือนจริงเหตุการณ์อัคคีภัยบนรถโดยสารขึ้น เพื่อเป็นสื่ออบรมพนักงาน และ VDO สื่อประชาสัมพันธ์สาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินบนโดยสาร เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น
