พนัส แต่งแต้ม 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยสี PU
ฉ่ำ ทนทาน สึกกร่อนยาก!
การสร้างกลยุทธ์ให้ “แตกต่างอย่างมีสไตล์” ยังเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ทุกยุทธภูมิการตลาดเสมอ ยิ่งในยุคสมัยที่ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีที่อาจก้าวทันกันในยุคนี้สมัยนี้ ผนวกกับอัตราการแข่งขันดุเดือดเข้มข้นด้วยแล้ว การสร้างแบรนด์ภายใต้กลยุทธ์แบบเดิมที่ไร้ความแตกต่างก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ดังใจปรารถนา มิหนำซ้ำยังจะนำพาองค์กรเข้าใกล้ซะง่อนผาแห่ง “ความล้มเหลว” เข้าไปทุกขณะ
ตรงกันข้ามกับองค์กรที่สร้างแบรนด์ภายใต้กลยุทธ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วย “ความแตกต่างอย่างมีสไตล์” ย่อมการันตีได้ถึงความสำเร็จและทะยานขึ้นเป็นผู้นำอย่างไม่ต้องสงสัย!
เช่นเดียวกับ บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด บริษัทยักษ์ใหญ่ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายพาหนะอุปกรณ์ระบบเคลื่อนย้ายสินค้าภายใต้แบนด์ “PANUS” ที่แม้จะดำเนินธุรกิจและประสบความสำเร็จมานานมากกว่า 4 ทศวรรษ แต่ทว่ายังไม่หยุดยั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆป้อนตลาดอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์การตลาดที่สร้างความแตกต่างอย่างมีสไตล์ ตอกย้ำคุณภาพและมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการ
ล่าสุด พัฒนาการพ่นสีบนผลิตภัณฑ์ด้วยเลือกสรรสี PU (Polyurethane) ที่มีคุณภาพสูงเพื่องานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบความสวยงาม แต่แฝงไปด้วยความทนทานต่อสภาพอากาศดีมาก สึกกร่อนยาก ให้ความทนทานและความเงาสูง ทนต่อสารเคมีดีมาก และทนทานต่อตัวทำละลายดีมาก
ใส่ใจทุกรายละเอียดในทุกผลิตภัณฑ์
โดยปกติการพ่นสีบนผลิตภัณฑ์ของ PANUS มีขั้นตอนการทำงานตั้งแต่เริ่มแรกคือการขัดสนิมออกจากชิ้นงาน โดยชิ้นงานที่ประกอบเสร็จแล้วจะมีสนิมติดมากับตัวเหล็กที่เป็นโครงสร้าง ถ้านำมาพ่นเลยสีจะไม่ติดทนนานและหลุดร่อนได้ง่าย ดังนั้น ต้องนำมาเข้าสู่กระบวนการขัดสนิมออกก่อนทั้งชิ้นงาน หรือที่เรียกว่า “กระบวนการยิงทราย” ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญมากก่อนจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพของ PANUS โดยการใช้ทรายต้องเป็นทรายละเอียดสำหรับการพ่นโดยเฉพาะเพื่อที่จะได้ขัดสนิมได้อย่างหมดจดสำหรับสีที่ผ่านกระบวนการพ่นทรายนั้นจะมีอายุการใช้งานมากกว่า 6 ปี
เลือกสรรสีแห้งเร็ว PU (Polyurethane)
ต่อมาหลังการพ่นสีรองพื้นแล้ว กระบวนการต่อไปคือการพ่นสีจริง จากเมื่อหลายปีก่อนพนัสใช้สีน้ำมัน (Enamel)ซึ่งใช้เวลาการพ่นนานและไม่ทนทานเท่าไหร่นัก จึงเปลี่ยนมาใช้สีแห้งเร็ว PU (Polyurethane) ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าสีน้ำมันทั่วไป คือมีความคงทนและทนทานสูง ซึ่งสามารถใช้ได้กับวัสดุต่างๆ เช่น เหล็ก คอนกรีต , ไม้ และ พลาสติก ฯลฯ สี PU มีทั้งแบบใช้เดี่ยวๆ และแบบต้องผสม 2 ส่วน ( 2 Cpmponent ) อีกทั้งยังทนทานต่อสภาพภูมิอากาศดีมาก ให้ความทนทานและความเงาสูง ทนต่อสารเคมีดีมาก ทนทานต่อตัวทำละลายดีมาก และสามารถแห้งแม้ในอุณหภูมิต่ำถึง 0* C ซึ่งเหมือนฟิล์มเกาะติดอยู่บนชิ้นงาน
แต่งแต้ม 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์
เมื่อมีการทดสอบคู่กันระหว่างสีน้ำมันและ PU โดยใช้ผ้าชุบน้ำมันก๊าดไปวางทิ้งไว้ จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ชิ้นงานที่ใช้สีน้ำมันจะร่อน ส่วนชิ้นงานที่ใช้สี PU จะไม่ร่อนออกมา ซึ่งสี PU จะมีความทนทานสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดและมีอายุการใช้งานมากว่า 6 เท่า ซึ่งกล้าให้ทดลองได้เลยโดยเมื่อนำมาพ่นกับชิ้นงานที่มีการเตรียมผิวอย่างดีแล้วสีที่ได้จะออกมาสดเงาและฉ่ำกว่าสีน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด และสินค้าหลัก รถกึ่งพ่วงก้างปลา , พื้นเรียบ , รถดัมพ์ , กระบะ ของ PANUS ทั้ง 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ล้วนแล้วใช้สี PU ทั้งสิ้น ดังนั้น จึงทำให้ผู้ประกอบการมากมายที่เลือกใช้สินค้าของ PANUS พอใจเป็นอย่างมาก ขณะนี้ผลิตภัณฑ์กลุ่มรถกระบะดัมพ์ของ PANUS เป็นที่ต้องการมากขึ้น และผู้ประกอบการสั่งกระบะดัมพ์สีสดใสกันเป็นจำนวนมาก
แม้การเลือกสรรสี PU แต่งแต้ม 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ของพนัส จะออกมาดูมีสีสันสด หวานแหว่วก็ตาม แต่ทว่าภายใต้ความงดงามก็ฝังชิปด้วยความคงทน ทนทานต่อสภาพภูมิอากาศดีมาก ให้ความทนทานและความเงาสูง ทนต่อสารเคมีดีมาก และทนทานต่อตัวทำละลายดีมาก
นี่แหล่ะคือการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด ภายใต้กลยุทธ์ “แตกต่างอย่างมีสไตล์” ย่อมนำชัยไปกว่าครึ่ง!!!