กระแสดี!สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น Euro5 ล็อตแรกเกลี้ยง ล็อตสองถึงไทยเร็วๆนี้

0
74

กระแสตอบรับดีเกินคาดสำหรับสแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น Euro5 หลังเปิดตัวเมื่อ 4มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ล่าสุด สแกนเนีย เผยยอด นิว บัส เจเนอเรชั่น Euro5 พุ่งเกินคาด ผู้ประกอบการ-ผู้ให้บริการรถบัสโดยสารแห่จองเกลี้ยงล็อตแรก ส่วนล็อตสองถึงไทยเร็วๆ นี้ ย้ำนิว บัส เจเนอเรชั่นมาตรฐานสูงขึ้นด้านความปลอดภัยสูง ความคุ้มค่าการลงทุน ช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 8% ลั่นคนไทยเฮเตรียมนั่งรถบัสโดยสาร Euro5 หลังทยอยส่งมอบลูกค้าประกอบตัวรถให้พร้อมใช้บริการ

นายพรต โชตินันทน์ ผู้จัดการฝ่ายขายรถโดยสารสแกนเนีย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงของตลาดรถบัสโดยสาร หลังภาครัฐมีการประกาศให้รถใหม่ที่ผลิตหรือนำเข้าตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 ต้องเป็นรถมาตรฐาน Euro5 ว่า ตลาดรถบัสโดยสารวันนี้เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ลูกค้าทุกกลุ่มของตลาดรถบัสต่างมองรถบัส Euro5 มาเป็นอันดับต้นสำหรับการใช้งาน รวมถึงตอบสนองวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรและเงื่อนไขการจ้างงานของลูกค้า และเพื่อความได้เปรียบด้านการแข่งขันในธุรกิจ ซึ่งทั้งเงื่อนไขและองค์ประกอบหลายอย่างกลายเป็นปัจจัยหนุนต่อรถบัสโดยสาร Euro5 ทั้งในส่วนกลุ่มลูกค้าภาครัฐและราชการ ที่ได้รับงบประมาณในการจัดซื้อรถบัสโดยสารใหม่หรือการเลือกผู้ให้บริการรถบัสโดยสาร มีการกำหนดเงื่อนไขให้รถที่ใช้งานต้องเป็นรถ Euro5 เพื่อเป็นไปตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลที่ต้องการลดมลพิษและการปล่อยไอเสียจากภาคขนส่ง

นิว บัส เจเนอเรชั่น มาตรฐานสูง

ส่วนกลุ่มลูกค้าบริษัทเอกชนหรือโรงงานก็มีแนวโน้มในการเลือกผู้ให้บริการรถโดยสารที่เป็นรถ Euro5 เช่นกัน เนื่องจากสามารถนำค่าการปล่อยไอเสียไปคำนวนค่าคาร์บอนเครดิตและคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้ ซึ่งรถบัสโดยสาร Euro5 ที่ปล่อยไอเสียน้อยกว่าจะได้เปรียบในส่วนนี้ ด้านฝั่งผู้ประกอบการรถบัสโดยสารและรถบัสประจำทางนั้น ก็มีความมั่นใจมากขึ้นจากความมั่นคงของรัฐบาลและงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างมีความชัดเจนและเริ่มทยอยออกมามากขึ้น ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการใช้งานรถบัสโดยสารเพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย ซึ่งภาคการท่องเที่ยวเองก็เริ่มให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเช่นกัน หลายประเทศออกเป็นข้อกำหนดแก่ธุรกิจการท่องเที่ยวว่า รถที่จะนำมาให้บริการด้านการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวในประเทศต้นทางต้องมีมาตรฐานการปล่อยมลพิษต่ำ ส่วนกลุ่มรถโดยสารประจำทางนั้น ล่าสุดหลายค่ายได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เช่นกัน เนื่องจากนิว บัส เจเนอเรชั่น ของสแกนเนีย มีมาตรฐานที่สูงขึ้นในหลายด้าน มีความปลอดภัยสูง และความคุ้มค่ากับการลงทุน

ล็อตแรกเกลี้ยง ล็อตสองถึงไทยเร็วๆ นี้

ด้วยเหตุนี้ทำให้ สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น Euro5 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากทั้งลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการรถบัสโดยสารและรถบัสประจำทาง ทำให้ล่าสุด สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น Euro5 ล็อตแรกได้ถูกจองหมดแล้ว โดยกลุ่มที่มีการจองซื้อมากสุดเป็นกลุ่มรถบัสโดยสารประจำทาง 70% กลุ่มรถบัสให้บริการนักท่องเที่ยว 20% และกลุ่มรถโรงงาน 10% สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ได้มีการจองซื้อรถไปแล้วนั้น อาทิ สมบัติทัวร์ ลิกไนท์ทัวร์ ซี.พี.เอ็น.ทราเวล ทรัพย์เจริญแทรเวล และประดิษฐ์รุ่งเรืองทัวร์ ฯลฯ ซึ่งทาง สแกนเนีย ได้ทยอยส่งมอบแก่ลูกค้าอย่างเร็วที่สุด เพื่อส่งต่อแก่อู่ประกอบตัวรถให้พร้อมใช้บริการ

ระบบความปลอดภัยดีที่สุดในตลาด

นอกจากมาตรฐาน Euro5 ที่อยู่ในกระแสของรถบัสโดยสารยุคใหม่แล้ว คุณภาพ ประสิทธิภาพ และจุดเด่นต่างๆของสแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น สามารถสร้างความมั่นใจและประทับใจให้แก่ผู้ประกอบการได้ในทุกมิติ ไม่ว่าความโดดเด่นของระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดในตลาดประเทศไทย ใหม่ล่าสุดกับ ADAS (Advanced Driver  Assistance Systems) เต็มระบบ มาตรฐานเดียวกับรถโดยสารที่ใช้ในยุโรป อาทิ ระบบเตือนรถออกนอกเลน (LDW) ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind spot warning) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ที่เบรคจนถึงจุดหยุดนิ่ง ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ที่ปรับความเร็วรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าจนถึงจุดหยุดนิ่งโดยอัตโนมัติ และยังออกตัวเองเมื่อจอดไม่เกิน 3 วินาที รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยเดิมที่ยังมีอยู่ครบและยังทำงานได้ดีขึ้น เช่น เบรกABS และ EBS เบรกไอเสียและเบรกเสริมรีทาร์เดอร์ ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ESP) ระบบกันลื่นไถล (Traction Control)  ฯลฯ

เครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงช่วยประหยัดน้ำมันถึง 8%

นอกจากนั้น สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น ยังเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของรถตระกูล Euro5 ที่เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 8% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ Euro3 ของสแกนเนีย ระบบเทคโนโลยีบำบัดมลพิษในไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงภายในเครื่องยนต์ (Selective Catalytic Reduction : SCR) ทำให้ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยลง ลด PM2.5 ได้มากถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับรถ Euro3 และระบบเกียร์เดินหน้าถึง 12 เกียร์ ช่วยให้การขับขี่ราบรื่นนิ่มนวลจนผู้โดยสารไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงขณะเปลี่ยนเกียร์

ปลอดภัย/เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น คือหัวใจสำคัญสแกนเนียทุกพื้นที่โลก

การปรับเปลี่ยนจากรถ Euro3 สู่ Euro5 นั้น ไม่ได้เพียงแต่ก่อเกิดประโยชน์แก่ฝั่งผู้ประกอบการเท่านั้น แต่สำหรับฝั่งผู้โดยสาร ผู้ขับขี่ร่วมทาง ภาคสังคมและสิ่งแวดล้อมนั้น สิ่งที่ สแกนเนีย คิดค้นพัฒนาไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม เทคโนโลยี  การเพิ่มประสิทธิภาพ ล้วนเกิดขึ้นบนพื้นฐานที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนได้รับสิ่งที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ สแกนเนีย ในทุกพื้นที่ของโลก