ขนส่งฯแนะผู้ประกอบการและพขร.สาธารณะและรถบรรทุกขับรถด้วยความระมัดระวังช่วงหน้าฝน กำชับตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบและความพร้อมของตัวรถก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยการเดินทาง ชี้พนักงานขับรถต้องมีความพร้อมก่อนออกปฏิบัติหน้าที่พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ย้ำขับติดต่อได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมงหยุดพักไม่น้อยกว่า 30 นาที และขับต่ออีกได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมงรวมไม่เกิน 8 ชั่วโมง
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน ส่งผลให้สภาพถนนเปียกลื่นจึงต้องเพิ่มระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้งานรถสาธารณะและรถบรรทุกจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วงที่ฝนตกจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ชัดเจนขณะขับรถและมีแหล่งน้ำขังตามพื้นถนน ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้หากพนักงานขับรถขับขี่ด้วยความประมาทหรือตัวรถมีสภาพไม่พร้อมใช้งาน ดังนั้นกรมการขนส่งทางบกจึงต้องกำชับให้ผู้ประกอบการเข้มงวดและกำชับพนักงานขับรถสาธารณะและรถบรรทุกปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและขับรถด้วยความระมัดระวังช่วงหน้าฝน และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เช่น การใช้ความเร็วไม่เกินกว่ากฎหมายกำหนด เว้นระยะห่างจากคันหน้าตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากสภาพถนนที่เปียกลื่นต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มมากขึ้น หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกกะทันหันอาจทำให้รถเสียการทรงตัวและเกิดอุบัติเหตุได้ หากรถยนต์เกิดขัดข้องต้องจอดรถให้แสดงเครื่องหมายหรือสัญญาณเตือนให้รถคันอื่นสังเกตเห็นชัดเจนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ นอกจากนั้นพนักงานขับรถสาธารณะและรถบรรทุก ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ต้องตรวจสอบความพร้อมของรถและอุปกรณ์ส่วนควบของรถทุกครั้ง เช่น สภาพยางรถ ระบบเบรก ระบบปัดน้ำฝนและสัญญาณไฟทั้งหมดของรถ เป็นต้น โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ที่เกี่ยวกับรถบรรทุกคือรถวิ่งอยู่บริเวณจุดบอดรถของบรรทุก จึงทำให้คนขับมองไม่เห็นและอาจเกิดอุบัติเหตุรถชนได้ รถบรรทุกจะมีสัญญาณไฟรถสิบล้อคอยเตือนรถที่ขับตามหลัง และตัวรถต้องติด GPS Tracking โดยผู้ประกอบการ ต้องติดตามการใช้รถของพนักงานขับรถอย่างเคร่งครัด หากพบมีการกระทำผิด เช่น พนักงานขับรถใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้ดำเนินการแจ้งเตือนไปยังพนักงานขับรถทันที โดยศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดได้ดำเนินการกำกับ ดูแล ตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของพนักงานขับรถต้องมีความพร้อมก่อนออกปฏิบัติหน้าที่พักผ่อนให้เพียงพอจะได้ไม่มีอาการอ่อนเพลียขณะขับรถ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะขับรถ และสามารถขับติดต่อได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง หยุดพักไม่น้อยกว่า 30 นาที และขับต่ออีกได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง รวมไม่เกิน 8 ชั่วโมง หรือมีพนักงานขับรถอย่างน้อย 2 คน รวมถึงต้องมีการตรวจสารเสพติดให้โทษหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทอื่นอย่างเคร่งครัด พนักงานขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้องตามประเภทรถที่ขับตามกฎหมายและยังไม่สิ้นอายุ ทั้งนี้ หากพบพนักงานขับรถฝ่าฝืนกฎหมายหรือทำผิดจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จะดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุดและ มีโอกาสถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้ รวมถึงจะดำเนินการลงโทษเจ้าของรถและผู้ประกอบการตามกฎหมายต่อไป
