กระทรวงคมนาคมเปิดแผนปฏิบัติการป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกการเดินทางช่วงสงกรานต์ 5 – 18 เม.ย.60 สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและนโยบาย One Transport ของกระทรวงคมนาคม ที่ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ร่วมกันให้บริการประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาอย่างมี “ความสุข สะดวก และปลอดภัย” ด้วยระบบการขนส่งสาธารณะที่เพียงพอ ไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุลดลงร้อยละ 5
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบแผนปฏิบัติการป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ของกระทรวงคมนาคม โดยกระทรวงฯ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนของกระทรวงมหาดไทย หน่วยงานทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ตลอดจนภาคีเครือข่ายทั้งภาคธุรกิจและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ อำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ระหว่างวันที่ 5 – 18 เมษายน 2560 สรุป ดังนี้
1. แผนปฏิบัติการป้องกันอุบัติเหตุ ได้แก่
1.1 มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ด้านยานพาหนะและผู้ขับขี่ การเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย การตั้งด่านตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ การตรวจความพร้อมสภาพตัวรถและพนักงานขับรถการกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องเข้า – ออกสถานีขนส่งหรือจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น การตรวจจับความเร็วด้วยระบบ GPS Tracking ขอความร่วมมือสมาคมขนส่งสินค้าหลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุกในช่วงเทศกาลและห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถและในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ด้านความปลอดภัยทางถนนเช่น ตรวจสอบสภาพความพร้อมของทาง ป้ายจราจร เครื่องหมายควบคุม สัญญาณไฟ และแก้ไขพื้นที่จุดเสี่ยง/จุดอันตราย ทางร่วมทางแยก จุดกลับรถ จัดช่องทางพิเศษ ทางเลี่ยงทางลัด ป้ายบอกและแนะนำเส้นทาง เป็นต้น ด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ขับขี่เปิดไฟหน้ารถช่วงเวลากลางวันเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นของผู้ร่วมใช้ทาง เคารพกฎจราจรสวมหมวกนิรภัยและคาดเข็มขัด ไม่ขับรถเร็ว และด้านการสอบสวนอุบัติเหตุเชิงลึก จัดให้มีระบบการสืบสวนกรณีเกิดอุบัติเหตุใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บเกิน 5 คน หรือได้รับความสนใจจากสังคม โดยเฝ้าระวังและติดตามข่าวตลอดทั้งช่วงเทศกาล
1.2 มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางน้ำ เข้มงวดการรักษาความปลอดภัยท่าเรือ การสวมเสื้อชูชีพ จัดเจ้าหน้าที่และเรือตรวจการณ์เจ้าท่าเพื่อควบคุมดูแลบริเวณท่าเทียบเรือที่มีการจราจรหนาแน่น ตั้งศูนย์ปฏิบัติการโทรทัศน์วงจรปิด CCTV และศูนย์ควบคุมการจราจรทางทะเล
1.3 มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางราง ตรวจสอบเส้นทางรถไฟ สถานีและเฝ้าระวังบริเวณจุดตัด เปิดไฟหน้าหัวรถจักรตลอดเวลา และห้ามผู้โดยสารใช้บันไดหรือข้อต่อของขบวนรถไฟเป็นที่โดยสารเด็ดขาด
1.4 มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางอากาศ เข้มงวดการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน อาคารผู้โดยสารและการวางสัมภาระสิ่งของต้องสงสัย บริหารการจัดระยะห่างการขึ้น – ลงของอากาศยานแต่ละท่าอากาศยาน การตรวจสอบควบคุมการจราจรทางอากาศ เครื่องบินและอุปกรณ์ตามมาตรฐานสากล
2. แผนอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชน ได้แก่
2.1 การจัดตั้งจุดให้บริการประชาชนระหว่างการเดินทาง ทางถนน จำนวน 665 จุด และทางน้ำ จำนวน 35 จุด รวม 718 จุดทั่วประเทศ เพื่อให้บริการที่พักผ่อน น้ำดื่มห้องสุขา ผ้าเย็นและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงบริการข้อมูลการเดินทาง และบริการตรวจสภาพรถ เติมลมยาง น้ำ น้ำกลั่นและเปลี่ยนอะไหล่บางรายการฟรี
2.2 การให้บริการฟรีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ได้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพให้บริการรถ Shuttle Bus และรถเมล์ฟรี จำนวน 2 เส้นทาง (วันที่ 5 – 10 เมษายน และ 13 – 16 เมษายน 2560) คือ สาย 3 วงกลมอู่หมอชิต – สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร และสาย 54 อู่หมอชิต 2 – อนุสาวรีย์ชัยฯ และจัดรถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรมตรวจรถก่อนใช้ปลอดภัยแน่นอนร่วมกับภาคีเครือข่ายให้บริการตรวจรถฟรี 20 รายการ กรมทางหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ – ชลบุรี) และหมายเลข 9 (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ตอนบางปะอิน – บางพลี) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา – ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 11 เมษายน 2560 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 18 เมษายน 2560
2.3 การให้บริการขนส่งสาธารณะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดเตรียมและเพิ่มจำนวน รถโดยสารประจำทาง/ไม่ประจำทาง เพิ่มจำนวนตู้โดยสารรถไฟและเที่ยววิ่ง เพิ่มเที่ยวบินเสริมพิเศษ เพื่อรองรับปริมาณการเดินทาง ระหว่างวันที่ 5 – 18 เมษายน 2560 รวม 14 วัน จำนวน 521,996 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ 35,624,400 คนต่อเที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.40 จากเทศกาลสงกรานต์ปี 2559 ระหว่างวันที่ 8 – 18 เมษายน 2559 รวม 11 วัน ที่มีประชาชนใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 20,309,862 คนต่อเที่ยว
2.4 การอำนวยความสะดวกด้านโครงข่ายถนนบำรุงรักษาทางหลวงและทางหลวงชนบทให้อยู่ในสภาพดี จัดตั้งศูนย์ประสานงานและจุดให้บริการ รายงานสภาพการจราจร Online แบบ Real Time จัดรถบริการให้ความช่วยเหลือเมือเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสีย ตรวจสอบป้ายจราจร เครื่องหมายควบคุมการจราจร สัญญาณไฟจราจร ไฟฟ้าแสงสว่าง และไฟกระพริบให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน ตรวจสอบและแก้ไขพื้นที่จุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดวิกฤติด้านการจราจร และจุดที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมผิวจราจรที่เสียหาย
2.5 การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ สถานีขนส่ง ท่าอากาศยานและอาคารผู้โดยสาร สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า เข้มงวดความสะอาดของห้องน้ำภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้มีความพร้อมรองรับปริมาณการใช้บริการของประชาชน เตรียมพื้นที่พักคอย พร้อมทั้งจัดที่จอดรถที่สะดวกปลอดภัยและเพียงพอ
2.6 การอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลการจราจรให้บริการข้อมูลข่าวสารผ่านสายด่วนของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ หรือศูนย์ปลอดภัยคมนาคม Call Center 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้ง จัดตั้งศูนย์ประสานงานความปลอดภัยคมนาคม และศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงคมนาคม (MOTOC) เพื่อรับแจ้งเหตุและประสานการช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และรายงานสถานการณ์อุบัติเหตุ ด้วยระบบ TRAMS
นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะดำเนินมาตรการ 7 + 7 + 7 จัดกิจกรรมสำหรับสร้างการเดินทางปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 ในช่วงวันที่ 7 – 24 เมษายน 2560 “ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Culture)” โดยมี KEY MESSAGE คือ “ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” แบ่งการจัดกิจกรรมเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ช่วง 7 แรก ระหว่างวันที่ 4 – 10 เมษายน 2560 เน้นที่คน ด้วยการเริ่มสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้อยู่ในใจคนไทยทุกคน จัดกิจกรรม “สานสัมพันธ์สัญญาใจ” เพื่อสื่อสัญญาใจร่วมปฏิบัติให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทาง เขียนข้อความบนกระดาษแล้วนำไปติดบนกระดานที่จัดเตรียมไว้ ณ ปั๊มที่เป็นจุดพักรถ กิจกรรม “สานสัมพันธ์ไทย – ญี่ปุ่น สร้างความปลอดภัยทางถนน” โดยขอความร่วมมือบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย 4,500 แห่ง ให้พนักงานกว่า 800,000 คน เขียนข้อความ “จะกลับมาอย่างปลอดภัย ด้วยการขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” และรณรงค์ผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ทางวิทยุ โซเซียลมีเดีย และโครงข่ายคมนาคม
ช่วง 7 กลาง ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2560 เน้นที่ถนนและรถ ด้วยการจัดคาราวานความปลอดภัยภายใต้นโยบาย One Transport ดำเนินการตามมาตรการป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกการเดินทางอย่างเข็มข้นและจริงจัง มุ่งสู่เป้าหมายทุกคนต้องปลอดภัยบนโครงข่ายคมนาคม และสื่อสารไปยังสื่อต่าง ๆ ด้วย KEY MESSAGE “ขอบคุณที่ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” ร่วมกับภาคีเครือข่ายในการประเมินผลและวิเคราะห์อุบัติเหตุเชิงลึก ดำเนินมาตรการความปลอดภัยใน 4 จังหวัดนำร่อง คือ สุพรรณบุรี อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และขอนแก่น
ช่วง 7 หลัง ระหว่างวันที่ 18 – 24 เมษายน 2560 เน้นที่การบริหารจัดการ เพื่อความยั่งยืน สานต่อวัฒนธรรมทางถนน การประเมินผล กำหนดมาตรการในช่วงต่อไป และกำหนดกิจกรรมที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่องทั้งปี
กระทรวงฯ ขอความร่วมมือประชาชนใส่ใจเพื่อนร่วมทางด้วยการ “ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” และจะได้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ประสานการปฏิบัติงานกับทุกภาคส่วนเพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างมี “ความสุข สะดวก และปลอดภัย” ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ตามนโยบาย One Transport ของกระทรวงฯ พร้อมทั้งให้ข้อมูลในการเดินทางด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้ข้อมูลแบบ Real Time Online โดยสามารถดูข้อมูลการเดินทาง สภาพการจราจร และสถานการณ์อุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงฯ ได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงคมนาคม www.mot.go.th หรือสอบถามที่สายด่วน หมายเลข 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง