ทล.ก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทล. 41 กับ ทล.417 (แยกสนามบิน) จ.สุราษฎร์ธานี วงเงินงบประมาณ 1,324.951 ล้านบาท แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการผู้ใช้ทางแล้ว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด และยกระดับการเดินทางระหว่างภูมิภาคด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และรองรับปริมาณจราจรในอนาคต หนุนเป้าหมายไทยศูนย์กลางโลจิสติกส์-คมนาคมขนส่งระดับภูมิภาคได้เป็นอย่างดี
กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม โดยสำนักก่อสร้างสะพาน ดำเนินการโครงการก่อสร้าง ทางแยกต่างระดับจุดตัด ทล.41 กับ ทล.417 (แยกสนามบิน) พื้นที่ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการแก่ผู้ใช้ทางแล้ว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด และยกระดับการเดินทางระหว่างภูมิภาค ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เนื่องจากทางแยกจุดตัด ทล.41 กับ ทล.417 เป็นเส้นทางเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี กับพื้นที่จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออก เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ ปัจจุบันมีจำนวนเที่ยวบินและปริมาณผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริเวณแยกดังกล่าวมีปริมาณการจราจรหนาแน่นและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง โครงการฯ มีรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางแยกต่างระดับที่เป็นจุดตัด ทล.41 ช่วง กม. ที่ 159+450 – 162+661 ระยะทาง 3,211 เมตร กับ ทล.417 ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+950 ระยะทาง 950 เมตร รวมระยะทาง 4,161 เมตร มีลักษณะการก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก มีการจราจรแบบทิศทางเดียว ประกอบด้วย
– สะพานที่ใช้สัญจรจากท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ไปยังอำเภอเกาะสมุย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอขนอม และสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช มีทางขึ้นตั้งอยู่บน ทล.41 ที่ กม. 161+100 – ทางลงบริเวณ ทล.417 ที่ กม. 0+300 ขนาด 2 ช่องจราจร ผิวจราจรกว้าง 9.50 – 12 เมตร มีความยาว 627.50 เมตร
– สะพานที่ใช้สัญจรจากจังหวัดชุมพร ข้ามแยกไปอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ และตรัง มีทางขึ้นบน ทล.41 ที่ กม. 160+668 – ทางลง ที่ กม. 161+145 ขนาด 4 ช่องจราจร ผิวจราจรกว้าง 15 เมตร มีความยาว 447.27 เมตร รวมงานก่อสร้างสะพานกลับรถ 1 แห่ง ขนาด 1 ช่องจราจร ผิวจราจรกว้าง 6.50 -10 เมตร ความยาว 597 เมตร และสะพานข้ามคลอง 1 แห่ง อีกทั้งได้ก่อสร้าง ทล.41 และ ทล.417 เดิมขนาด 4 ช่องจราจร เป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ ขนาด 14 ช่องจราจร (ไป – กลับ ทิศทางละ 7 ช่องจราจร) รวมระยะทาง 4,161 เมตร พร้อมก่อสร้างระบบระบายน้ำและบ่อพัก ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยและป้ายจราจร วงเงินงบประมาณ 1,324.951 ล้านบาท
ทั้งนื้ โครงการฯ สามารถรองรับปริมาณการจราจรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เป็นการยกระดับการให้บริการและคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ทาง สนับสนุนเป้าหมายการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ และการคมนาคมขนส่งในระดับภูมิภาคได้เป็นอย่างดี
กรมทางหลวงชนบท ตั้งด่านตรวจชั่งน้ำหนักยานพาหนะเคลื่อนที่บนถนนสาย พบ.1045 และ พบ.1027 จังหวัดเพชรบุรี เพิ่มระดับความปลอดภัยบนท้องถนนและลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ และป้องกันการชำรุดของพื้นผิวถนนในระยะยาว