การรถไฟฯเชิญชวนเด็กและเยาวชนร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ 2567 “ขบวนรถไฟแห่งความสุข” วันเสาร์ที่ 13 มกราคมนี้ ที่สถานีหัวลำโพง และ 6 สถานีภูมิภาคทั่วประเทศ
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ 2567 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค จัดกิจกรรมวันเด็กขึ้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาส ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ สร้างประสบการณ์เกี่ยวกับกิจการรถไฟ ควบคู่กับความสนุกสนานและเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติในปี 2567 การรถไฟฯ ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ขบวนรถไฟแห่งความสุข” มุ่งเน้นให้น้องๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบขนส่งทางรถไฟที่สำคัญและมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน รวมทั้ง จัดกิจกรรมสันทนาการสร้างแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ สามารถลงมือทำจริง ถือเป็นการสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเติบโตอย่างมีคุณภาพ กล้าที่จะแสดงศักยภาพออกมาอย่างเหมาะสม
นายเอกรัชกล่าวว่า สำหรับไฮไลท์งานวันเด็กในปีนี้ การรถไฟฯ จัดขึ้นที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กทางมรดกสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยในปีนี้นับเป็นโอกาสพิเศษที่ การรถไฟฯ ได้นำรถจักรที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จำนวน 7 คัน มาจัดแสดงที่สถานีหัวลำโพง (หัวลำโพง) บริเวณชานชาลาที่ 4 และ 5 โดยเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ขึ้นไปสัมผัสบนรถจักรไอน้ำ พร้อมทดลองเป็นพนักงานขับรถไฟ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และเข้าชมด้านในห้องเครื่องบนรถจักรเป็นครั้งแรก รวมทั้งยังได้พบกับแฟนพันธุ์แท้รถไฟไทย จะมาเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจ มีกิจกรรมสันทนาการให้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลมากมาย อาทิ แท็บเล็ต สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รถจักรยาน ของที่ระลึกจากการรถไฟฯ อีกมากมายกว่า 1,500 รางวัล พร้อมบริการอาหาร และเครื่องดื่มฟรีตลอดงาน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.00 น.
นอกจากนี้วันเดียวกัน การรถไฟฯ ยังได้จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ อีก 6 แห่ง ประกอบด้วย สถานีอุบลราชธานี แขวงรถจักรอุตรดิตถ์ สถานีศาลายา สถานีขอนแก่น สถานีรถไฟชุมพร และศูนย์ปฏิบัติชายแดนภาคใต้การรถไฟฯ พร้อมกับได้สนับสนุนของรางวัลให้กับหน่วยงาน และชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 50 แห่ง เพื่อส่งมอบความสุข สร้างรอยยิ้มให้กับเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคตต่อไป