กรมทางหลวงชนบท(ทช.) เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจกท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างยั่งยืน เพิ่มความปลอดภัยการดำรงชีวิตสัตว์ป่า เพิ่มศักยภาพการเดินทางให้แก่ประชาชน สร้างสะพานเชื่อมระบบนิเวศน์แห่งแรกในประเทศไทย บนถนนสาย รย.4060 จังหวัดระยอง และจันทบุรี งบประมาณรวม 587.516 ล้านบาท คืบหน้ากว่า 20% คาดแล้วเสร็จกลางปี 2568
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยโครงการก่อสร้างสะพานบนถนนทางหลวงชนบทสาย รย.4060 อำเภอเขาชะเมา แก่งหางแมว จังหวัดระยอง จันทบุรี “สะพานเชื่อมระบบนิเวศน์แห่งแรกในประเทศไทย” มีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 20 ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างเสาเข็มเจาะ การก่อสร้างโครงสร้างฐานราก การเบี่ยงทางจราจร การติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง และการก่อสร้างถนนกลับรถใต้สะพาน คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2568 ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมต่อยุทธศาสตร์ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ พัฒนาระบบโครงข่ายการคมนาคมให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน ควบคู่กับการบริหารจัดการผลกระทบของสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาสมดุลทางธรรมชาติเพิ่มความปลอดภัยในการดำรงชีวิตของสัตว์ป่าในแต่ละพื้นที่ ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
สำหรับโครงการก่อสร้างดังกล่าว ทช. ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างสะพาน 2 แห่ง บริเวณ กม. ที่ 4+525 – 5+155 และ กม. ที่ 9+517.25 – 9+937.25 บนถนนสาย รย.4060 อำเภอเขาชะเมา และแก่งหางแมว จังหวัดระยอง และจันทบุรี เพื่อเชื่อมต่อระบบนิเวศระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน และอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา – เขาวง จากเดิมที่มีถนนคั่นกลางมาเป็นสะพาน เพื่อให้รถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้ รวมทั้งได้รื้อถนนเดิมบางส่วนเพื่อให้สัตว์ป่าสามารถเดินลอดใต้สะพานได้อย่างสะดวกปลอดภัย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพรรณพืช ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์ป่าอย่างยั่งยืน โดย ทช. ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการเข้าใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของลักษณะการก่อสร้างสะพานทั้งสองแห่งนี้มีความกว้างเท่ากัน คือ 11 เมตร รองรับการจราจร 2 ช่องทาง (ไป – กลับ) โดยสะพานแห่งที่ 1 มีความยาว 630 เมตร และสะพานแห่งที่ 2 มีความยาว 420 เมตร นอกจากนี้ ทั้งสองสะพานยังมีที่จอดรถบนสะพาน มีความยาวด้านละ 30 เมตร ทั้งสองด้านของสะพาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ประชาชนผู้ที่สนใจสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ป่าที่เดินผ่านหรืออาศัยอยู่ในบริเวณสะพาน เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศได้อีกทางหนึ่ง ใช้งบประมาณรวม 587.516 ล้านบาท