เหลือบเห็นข่าวทั่นรมต.กระทวงหูกวาง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ”จ้อข่าวหลังประชุมครม.(14 มี.ค.) ว่าครม.รับทราบแนวทางการขอปรับกฎกระทรวงการอนุญาตใบขับขี่ส่วนบุคคล-สาธารณะที่แต่เดิมต้องผ่านการอบรม -สอบข้อเขียน-สอบขับรถจริง โดยเสียค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 5 บาท แต่ปรับปรุงใหม่ต้องไปเรียนรร.สอนขับรถเอกชน โดยเพิ่มชม.อบรมจากเดิม 5 ชม.พุ่งสูง 15 ชม.และค่าเรียนอีก 5-6 พันบาท ก่อนจะได้ใบขับขี่ไว้ครอบครอง ดีเดย์ 1 ต.ค.ศกนี้
ปิศาจขนส่ง เห็นข่าวนี้แล้วอยากจะหัวเราะเป็นภาษามอนตาเนโกรพลางอุทานเป็นภาษาอิสานว่า “ข้อยล่ะงงเด้”แล้วอยากจะวิ่งเอาหัวชนต้นหูกวางหน้ากระทรวงให้มันรู้แล้วรอดไป
ยิ่งทวีความงงเด้งงคักหลายเข้าไปอีกเมื่อได้เสพรายละเลียดเรื่องนี้ เมื่อทั่นรมต.ดั้นเมฆเหตุผลที่ปรับปรุงใหม่ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะให้การออกใบอนุญาตขับขี่ในอนาคตมีลักษณะ “ออกยากแต่ยึดง่าย” เพื่อเป็นเกณฑ์เป้าหมายให้ผู้ขับรถที่ได้รับอนุญาตมีคุณภาพสูงขึ้น
บางทีเหตุผลที่ทั่นยกเมฆมา ปีศาจขนส่ง ก็ไม่เข้าใจ “อารมณ์ของตุ้ม”จริงๆ ทั้งหลายทั้งปวงพุ่งเป้าไปที่ประชาชนคนไทยให้สำเหนียกจงหนักกว่าจะได้ “ใบขับขี่” ไว้นอนกอดสักใบต้องได้มาอยากเย็นแสนเข็ญใน 3 โลก พอได้มาแล้วต้องทำใจนะว่าจะโดน “ยึดคืนแบบง่ายๆ”เมื่อไหร่ ก็ไม่เข้าใจว่าทั่นคิดโดยยึด “ตรรกะ”มาจากนอกโลกหรืออย่างไร?
หลังกฎกระทรวงฉบับปรุงปรุงใหม่นี้ประกาศใช้แล้ว นั่นก็คือนับตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ผู้ขอใบอนุญาตต้องผ่านการเรียนที่รร.สอนขับรถเอกชน ทราบว่าตอนนี้มีผู้ประกอบการพร้อมแล้วทั่วประเทศ 90 แห่ง ต้องอบรมขั้นตอนต่าง ๆ ครบ 15 ชม. จากนั้นรร.สอนขับรถจะส่งรายชื่อผู้ขอสอบมาที่กรมการขนส่งทางบกทางออนไลน์จากนั้นผู้ที่ต้องการสอบใบอนุญาตจะต้องมาแสดงตัวที่กรมฯ หรือขนส่งจังหวัดที่จะออกใบอนุญาตขั้นตอนสุดท้ายให้ โดยจะครอบคลุมถึงผู้ที่มีใบขับขี่แล้วหากจะมีการต่อใบอนุญาตต้องไปผ่านการอบรมจากโรงเรียนสอนขับรถเอกชน 1 ชม.ก่อนออกใบอนุญาตต่อใบขับขี่ ส่วนพื้นที่จังหวัดที่ยังไม่มีรร.สอนขับรถก็จะให้ขนส่งจังหวัดเป็นหน่วยงานสอนและอบรมให้แก่ผู้ต้องการออกใบขับขี่
แม้จะพอเข้าใจได้ว่าการทำจะขออนุญาตใบขับขี่ทุกวันนี้ประชาชนต้องรอหาวเรอนานมาก บางคนรอนาน 3 เดือน เพราะหน่วยงานราชการมีเจ้าหน้าที่รองรับไม่มาก แนวทางการนำโรงเรียนสอนขับรถควบคุมนั้นก็ช่วยให้การสอบใบขับขี่รวดเร็วมากขึ้น แต่สิ่งประชาชนน่าจะรับไม่ได้ก็อยู่ค่าเรียนที่แพงหูฉี่แตะ 5-6 พันบาท ชม.การอบรมก็พุ่งทะยานเป็น 15 ชม. ดูเหมือนผลักภาระให้กับประชาชนต้องแบกค่าใช้จ่ายหนักขนาดนี้
หรือไม่มีแนวทางอื่นหรือวิธีอื่นที่ส่งผลกระทบและลดความเดือดร้อนของประชาชนตาดำๆน้อยกว่านี้หรืออย่างไร?
ที่สำคัญการได้มาด้วยความยากลำบากนี้อาจเป็นช่องทางทำมาหากินของข้าราชการน้ำเลวสันดานต่ำบางคน กดราคาค่าใบขับขี่ที่ไม่ต้องเสียเวลาและหยาดเหงื่อ พร้อมกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเองสบายใจเฉิบแบบเบิร์ดๆ ไม่ทราบว่ากระทรวงฯได้คิดหาแนวทางล้างบางข้าราชการชั่วๆที่ชอบทำนาบนหลังคนจำพวกนี้หรือไม่
รู้งี้ทำตัวเป็นคนป่าหลังเขาขี่มอเตอร์ไซด์เข้าเมืองโดนตร.ขอดูใบขับขี่แล้วไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างที่กวีศรีชาวไร่ “น้าหมู-พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ” ร้องเอาไว้ในเพลง “ต้นขับขี่”ว่า“…เป็นยังไง ละไอ้ใบขับขี่บอกหน่อยซิ ว่าต้นเป็นยังไงเป็นยังไง ละไอ้ต้นขับขี่ บอกหน่อยซิ จะเด็ดใบ..มาฝาก…”
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sanook.com
