“บีเอส เทรดดิ้ง”คว้าสัญญาตัวแทนขายอาหารเสริม‘คามินเนีย’ในเครือโอเรียนท์อินโนเวชั่น

0
139

บีเอส กรุ๊ปเดินหน้าขยายความร่วมมือและขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ระบบนิเวศเดียวกันเต็มสูบ ล่าสุด“บีเอส เทรดดิ้ง 2020”บริษัทในเครือคว้าสัญญาเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าอาหารเสริมแบรนด์ดัง“คามินเนีย”ในเครือโอเรียนท์อินโนเวชั่นทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ หนุน Roadmap สร้างการเติบโตเติมเต็มศักยภาพธุรกิจเป็นแรงส่ง“บีเอส กรุ๊ป”สู่เป้าหมายเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก5ปีข้างหน้า

ดร.ชุมพล สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอส เอ็กซ์เพรส 2020 จำกัด เปิดเผยว่าก่อนหน้าที่ทางโอเรียนท์อินโนเวชั่นจะแต่งตั้งบีเอสเทรดดิ้งฯให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายก็เป็นพันธมิตรเรามาก่อนด้วยการเช่าคลังของเราและให้เราจัดส่งกระจายสินค้าปลากระป๋องซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ต่อมาเมื่อแตกไลน์ธุรกิจอาหารเสริมยี่ห้อดัง“คามินเนีย”และอีกทั้งยังมีโรงงานผลิตสู่การร่วมมือต่อเนื่องด้วยการลงนามสัญญาแต่งตั้งให้บีเอสเทรดดิ้งฯเป็นตัวแทนการจัดจำหน่าย

“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการเป็นส่วนหนึ่งการเติบโตให้กับบีเอสกรุ๊ปภายใต้คอนเซ็ปต์ระบบนิเวศเดียวกันของบริษัทที่ให้บริการทั้งช่วยขายช่วยส่ง ซึ่งเราจะทำหน้าที่ทั้งการตลาด คลังสินค้า-กระจายสินค้า รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ซึ่งเราจะช่วยประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Shopee,Tik Tok,Facebook และ Line Add  ส่วนออฟไลน์เราก็จะนำสินค้าไปช่วยขายและวางหน้าร้าน Drop point ต่างๆของเราอีกด้วย ต้องขอขอบคุณบริษัท โอเริยนท์อินโนเวชั่น จำกัด โดยคุณวิชัย เข็มทองคำ กรรมการผู้จัดการ ที่ได้ไว้วางใจให้บริษัทบีเอสเทรดดิ้งฯเป็นตัวแทนขายสินค้า“คามินเนีย” (CAMINIA)กับความร่วมมือครั้งสำคัญนี้”

ดร.ชุมพล ย้ำอีกว่าบีเอสฯขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ระบบนิเวศเดียวกันผ่าน 5 เสาธุรกิจหลักมุ่งสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเต็มตัว เรามีตลาดซื้อขายรองรับนั่นก็คือบีเอสเทรดดิ้งฯ เรามีการขนส่งของเราเองผ่านบีเอสเอ็กซ์เพรสเข้ามาตอบโจทย์ มีการซื้อขายตลาดออนไลน์ผ่าน BS-Marketplace การทำไฟแนนซ์ และการทำดาต้าเซ็นเตอร์

“การจับมือครั้งนี้ถือเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจบีเอสกรุ๊ปครอบคลุม 3 เสาธุรกิจหลักไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาด การเทรดดิ้ง และคลังสินค้าและจัดส่งกระจายสินค้า เป็นโปรเจ็กต์ช่วยหนุน Roadmap สร้างการเติบโตและเติมเต็มศักยภาพธุรกิจ เป็นแรงส่ง“บีเอส กรุ๊ป”สู่เป้าหมายเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก5ปีข้างหน้า”