นับตั้งแต่ค่ายสแกนเนียรถบรรทุกสายพันธุ์แกร่งได้ก่อเกิด ณ แผ่นดินแม่อย่างสวีเดนถึงวันนี้จำเนียรกาลครบ 125 ปีเข้าไปแล้ว ขณะที่อีกซีกโลกหนึ่งอย่างไทยแลนด์แดนสยามเมืองยิ้มที่ สแกนเนีย ได้โลดแล่นพลางโชว์สกิลความเป็นรถบรรทุกพันธุ์แกร่งทั่วเหนือ ใต้ ออก ตกถึงวันนี้ก็บรรจบครบ 30 ปีบริบูรณ์พูนผลแล้ว
ในห้วงครบวงล้อทั้ง 2 วาระนั้น บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ผู้จำหน่ายรถบรรทุกและรถโดยสารภายใต้แบรนด์ “สแกนเนีย” นำโดยมร.สเตฟาน ดอร์สกี กรรมการผู้จัดการ นายภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาค พร้อมด้วยพนักงาน ได้จัดงานฉลองครบรอบในโอกาสสำคัญดังกล่าวขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “SCANIA 125/30 YEARSขับเคลื่อนผลกำไรของคุณ” ทั้งกิจกรรมแข่งขันกอล์ฟกระชับมิตรในภาคกลางวัน และกิจกรรมปาร์ตี้ในภาคกลางคืน เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2560 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา
สแกนเนีย สร้างเซอร์ไพร้ส์! ยอดขายพุ่งสูงสุดในรอบ 30 ปี
และในโอกาสสำคัญยิ่งนี้ มร. มร.สเตฟาน ดอร์สกี เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดรถบรรทุกปีที่แล้วเติบโต 8.5%หรือ ประมาณ 17,000 คัน ส่วนตลาดรถบัสโดยสารเติบโต 9.7% หรือประมาณ 1,600 คัน ถือเป็นแนวโน้มการฟื้นตัวและเป็นสัญญาณที่ดีว่าตลาดรถบรรทุกและรถบัสโดยสารได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
“ปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ สแกนเนีย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยสามารถสร้างยอดขายรวมของกลุ่มรถบรรทุกได้ถึง 424 คัน นับเป็นสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 30 ปี ซึ่งเป็นผลจากการที่ลูกค้าให้การยอมรับในประสิทธิภาพของนวัตกรรมและเทคโนโลยีรถ สแกนเนีย ทั้งในมิติการประหยัดเชื้อเพลิง มีความปลอดภัยสูง และมีการพัฒนาบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง และการให้บริการการตรวจเช็คสภาพ ซ่อมฟรียาวถึง 2 ปี ส่วนตลาดรถบัสโดยสารสแกนเนีย มีการส่งมอบรถให้แก่ลูกค้า 91 คัน เห็นได้ว่า สแกนเนีย ยังแข็งแกร่งและรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มค่ายยุโรปได้เป็นอย่างดี โดยล่าสุดได้มีการสั่งรถบรรทุกรุ่นพิเศษ G-Series จำกัดจำนวนเพียง 30 คัน เข้ามาเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี สแกนเนียในประเทศไทยอีกด้วย”
ทุ่มงบ 800 ล้านบาทสร้างโรงประกอบในไทยในปี 61
นอกจากนี้ นายสเตฟาน ยังสะท้อนมุมมองต่อแนวโน้มการเติบโตตลาดรถใหญ่ปี 2560 ด้วยว่าตลาดรถใหญ่ปีนี้คาดเติบโตเพิ่มขึ้น 5-10% หรือประมาณ 19,000 – 20,000 คัน ส่วนรถโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 คัน โดยได้รับอานิสงค์จากนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่เป็นรูปธรรม สัญญาณการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว ราคาผลผลิตในภาคเกษตรบางชนิดที่เริ่มมีราคาสูงขึ้น การเติบโตของการท่องเที่ยวและมูลค่าการค้าในกลุ่มเออีซีที่ยังคงขยายตัว
“ส่วนแผนงานบริการนั้น สแกนเนีย มีการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการอยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ล่าสุด ได้มีการเปิด Scania Assistance Center ศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง โดยลูกค้าสามารถโทรแจ้งปัญหาหรือขอคำปรึกษาได้ฟรี ที่เบอร์ 1800-019-888 ส่วนความคืบหน้าด้านการขยายและปรับปรุงศูนย์บริการนั้น ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้มีการย้ายศูนย์บริการแหลมฉบังไปยังบริเวณสี่แยกทางหลวงหมายเลข 7 ถนน 331 ซึ่งมีความสะดวกในการเข้ารับบริการเพิ่มมากขึ้น และในเดือนพฤษภาคม จะมีการเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง พร้อมทั้งยังเดินหน้าลงทุนในการขยายศูนย์บริการต่อไปเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศมากที่สุดตามการประกาศแผนการขยายเครือข่ายศูนย์บริการสแกนเนียในประเทศ จากปัจจุบัน 10 แห่ง เป็น 18 แห่งในปีพ.ศ.2562”
อย่างไรก็ดี คุณสเตฟาน สรุปปิดท้ายถึงทิศทางการลงทุนในประเทศไทยว่า ถือเป็นข่าวดีเนื่องจาก สแกนเนีย ได้เตรียมงบลงทุนโรงงานประกอบรถบรรทุก หัวเก๋ง และแชสซีส์รถโดยสารแห่งใหม่ในประเทศไทยไว้ถึง 800 ล้านบาท โดยมีกำหนดดำเนินงานในปี 2561 ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็นการสะท้อนว่าไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางของทั้งอุตสาหกรรม การค้า และการขนส่งของอาเซียน มีอุตสาหกรรมยานยนต์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะคนไทยซึ่งมีศักยภาพสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว การลงทุนก่อตั้งโรงงานในไทยจะทำให้ สแกนเนีย มีความใกล้ชิดกับลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน เอเชีย และโอเชียเนียเพิ่มขึ้นอีกด้วย
จากวันนี้ถึงวันนี้เป็น 3 ทศวรรษที่ สแกนเนีย เดินเคียงข้างและมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนผลกำไรของผู้ประกอบการขนส่งเมืองไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยังยืนหยัดเป็นมิตรแท้เพื่อขนส่งไทยตลอดไป