เมื่อลูกค้า“สั่ง…ไม่หยุด”!ผู้ผลิตก็“ส่งมอบไม่หยุด”เช่นกันสำหรับ“รถบรรทุกกึ่งพ่วงพื้นเรียบ” New Generation รุ่นใหม่ขบวนล่าสุดภายใต้โลโก้“Panus”หลังปฏิบัติการเสือปืนไวเปิดตัวเขย่าวงการเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด พี่เบิ้มธุรกิจผลิตยานยนต์เพื่อการขนส่งและโลจิสติกส์เมืองไทย ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในตลาด 6 ปีซ้อน
ล่าสุด (17ก.ค.2566)คุณณัชชา วงศ์คำภู ผู้อำนวยการหน่วยโลจิสติกส์ บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด แท็กทีมงานขายมืออาชีพ คุณจุฑามาศ ทรัพย์เณร ส่งมอบรถพื้นเรียบ New Generation รุ่นใหม่ล่าสุดจำนวน 6 คัน ให้บริษัท ฟาอีฟ โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านการขนส่งแบบครบวงจร โดยมีคุณอีฟ-สันติ เฟ็นดี้ บิ๊กบอสแห่งฟาอีฟ โลจิสติกส์ฯให้เกียรติเป็นผู้รับมอบ
สำหรับบริษัท ฟาอีฟ โลจิสติกส์ จำกัด ถือเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งที่น่าจับตามอง กุมบังเหียนโดยผู้บริหารคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างคุณอีฟ-สันติ เฟ็นดี้ เดินทัพธุรกิจด้วยหัวใจการให้บริการด้วยสโลแกน“บริการด้วยหัวใจ ปลอดภัยเรื่องเวลา”เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีกองหนุนกำลังรถในการขนส่งหลากหลาย อาทิเช่น รถแชสซีส์คอนเทนเนอร์ รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว รถพื้นเรียบในรูปแบบ 2 เพลา และ 3 เพลา โดยมีฐานบัญชาการใหญ่อยู่ย่านสมุทรปราการอีกหนึ่งทำเลสมรภูมิเดือดการขนส่งเมืองไทย
ขณะที่คุณณัชชา วงศ์คำภู เปิดเผยหลังส่งมอบว่าพนัสฯได้มีการคิดค้นและการเก็บข้อมูลในมิติต่างๆอยู่เสมอเพื่อนำมาพัฒนาสินค้าของเรา รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัยสู่การตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพและระยะเวลา ตลอดถึงต้นทุนที่เป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจ เราจึงขอส่งมอบคุณค่าของผลิตภัณฑ์และการบริการที่สร้างความแตกต่างให้กับลูกค้าของเราต่อไป
สำหรับ“รถบรรทุกกึ่งพ่วงพื้นเรียบ” New Generation รุ่นใหม่ขบวนล่าสุด หรือในวงการเรียก“รถพื้นเรียบ”ภายใต้โลโก้“Panus”นี้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่ทางค่าย Panus ยึดหัวหาดครองเจ้าตลาดในเมืองไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งถูกออกแบบในโอกาสครบรอบ50ปีพนัสฯด้วยดีไซน์ใหม่ทันสมัยและมีน้ำหนักเบากว่าเจนเดิมถึง 1 ตัน
และที่สำคัญเป็นการออกแบบและผลิตให้ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนนรองรับข้อบังคับฉบับใหม่ของกรมการขนส่งทางบกที่เตรียมออกประกาศฉบับใหม่ให้รถบรรทุกที่จะจดทะเบียนใหม่ทุกประเภทต้องติด“อุปกรณ์ป้องกันด้านข้างและท้ายรถบรรทุก”ซึ่งตามรายงานข่าวคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เปิดโลกข่าวสารน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ“อุปกรณ์ป้องกันด้านข้างและท้ายรถบรรทุก”ที่ว่านี้เกิดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)ได้ศึกษาวิจัย พัฒนา ออกแบบพร้อมทั้งได้ทำการทดลองจนได้มาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย UNR58 และ UN R73 ซึ่งมีมากกว่า 90 แบบแบ่งตามรถบรรทุกแต่ละรุ่นตามความเหมาะสมสำหรับรถบรรทุก 7 ประเภท
ซึ่งตอนนี้แบบเชิงวิศวกรรมอุปกรณ์ป้องกันด้านข้างและท้ายรถบรรทุกกว่า 90 แบบของรถบรรทุกทั้ง 7 ประเภท ได้ถูกบรรจุลงฐานข้อมูลของเว็บไซต์ฐานข้อมูลเชิงวิศวกรรมเป็น“มาตรฐานเดียว”สำหรับผู้ผลิตและผู้ประกอบได้เข้าถึงและยึดเอา“แบบเชิงวิศวกรรม”ดังกล่าวเพื่อการผลิต-ประกอบได้อย่างทั่วถึงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายต่อไป
:ลุงดัมพ์รำพัน