เทคนิคจัดการโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วนไม่ยากอย่างที่คิด

การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วนให้ทำกำไรและประสบความสำเร็จ ต้องอาศัยเทคนิคการบริหารจัดการที่แตกต่างจากธุรกิจอื่น ๆ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) แบรนด์ขนส่งพัสดุเจ้าเดียวในไทย ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาสร้างผลกำไรและเป็นเจ้าของธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน ประเภทแฟรนไชส์หลัก (First Franchise) ที่มีอิสระในการบริหารพื้นที่ 100% ภายใต้การดูแลของ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้รวบรวมเทคนิคการบริหารจัดการและประสบการณ์โดยตรงจากเจ้าของแฟรนไชส์ BEST Express มาแบ่งปัน

·เลือกโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วนที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

คุณชณันวัชร์ ตันติวิศานต์ภพ ผู้ดูแลแฟรนไชส์ BEST Express สาขานวลจันทร์ บึงกุ่ม และสาขาลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า “ธุรกิจ เบสท์ เอ็กซ์เพรส ได้ให้กรรมสิทธิ์ที่เราสามารถดูแลพื้นที่ได้แบบ 100% สามารถบริหารจัดการในแบบฉบับของเราเองได้ และต่อยอดขยายในเชิงเครือข่ายธุรกิจได้หลากหลายรูปแบบ ผมเริ่มต้นธุรกิจโลจิสติกส์จากความรู้ที่เป็น 0 ทางเบสท์ก็มีทีมคอยเทรนนิ่งให้ความรู้ มี Area Manager (ผู้จัดการภูมิภาค) ในการช่วยแก้ปัญหา มีทีมผู้บริหารในการรับฟังทุกข้อเสนอแนะและปัญหา ทางทีมเบสท์มีการสอนในทุกขั้นตอน ถึงแม้ว่าผมจะอยู่ในครอบครัวเบสท์มา 2 เกือบ 3 ปีแล้ว แต่เบสท์ยังคอยอัพเดทการเทรนนิ่งระบบการใช้งานใหม่ ๆ และมาตรฐานในการดำเนินงานต่าง ๆ ให้อยู่เสมอ”

·เลือกเปิดแฟรนไชส์ในพื้นที่ที่คุ้นเคยและมี connection

คุณปริญญา มงคล เจ้าของและผู้บริหาร แฟรนไชส์ BEST Express สาขาสุรินทร์ 4 จังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึงเหตุผลในการเลือกจังหวัดสุรินทร์ว่า “เป็นพื้นที่ที่ผมรู้จักและคุ้นเคย มี connection ในพื้นที่ ดังนั้นการได้เข้ามาบริหารพื้นที่ที่ตัวเองคุ้นชินนับเป็นผลดีที่ช่วยให้เราบริหารงานได้ง่ายและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถใช้ connection ส่วนตัวในการสร้างความสนิทสนมกับแม่ค้าออนไลน์ในพื้นที่ และรับรู้พื้นเพของพนักงานส่งของได้อีกด้วย”

·ให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการลูกค้าและบุคลากรภายในสาขา

คุณวรพงษ์ สารพันธุ์ ผู้บริหารแฟรนไชส์ BEST Express สาขาพานทอง นิคมอมตะซิตี้ชลบุรี จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “ผมให้ความสำคัญกับบุคลากรทุกคน สร้างคนให้มีความเข้มแข็ง เพราะเมื่อคนเข้มแข็ง ก็จะสร้างทีมงานที่มีคุณภาพและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทีมคูเรียร์เราต้องสื่อสารให้เขาเข้าใจว่านโยบายคืออะไร กลยุทธ์คืออะไร ถ้าส่งงานได้สำเร็จจะมีอะไรตอบแทนบ้าง ส่วนทีมซัพพอร์ตหลังบ้านจะต้องช่วยตามประสานงาน เพื่อเพิ่ม % ใน POD (Proof on Delivery)  ให้สำเร็จไปอีกขั้น เป็นส่วนประกอบที่ต้องทำงานร่วมกันระหว่างทีมคูเรียร์และทีมหลังบ้านเป็นทีมเวิร์กช่วยกันทำงาน ซึ่งผลลัพธ์ทำให้ POD ของเรามียอดสูงในแต่ละเดือน

ส่วนในด้านการบริหารจัดการลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงงานและพื้นที่เกษตรกรประกอบอาชีพเกี่ยวกับบ่อปลา ทำฟาร์ม และธุรกิจส่วนตัว จึงต้องมีวิธีจัดการให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม เราให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ส่งมาก ส่งน้อย หากลูกค้ามีเข้ามาใช้บริการ เราจะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ เช่น สามารถติดตามสถานะงานที่ส่งได้ แม้กระทั่งตอนนี้อยู่บนรถแล้ว ถึงปลายทางแล้ว กำลังนำส่ง เหลือระยะทางอีกกี่นาที กี่กิโลเมตร ลูกค้าจึงประทับใจและเชื่อมั่นในการใช้บริการกับ เบสท์ เอ็กซ์เพรส จึงทำให้ลูกค้าบอกต่อ และเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง”