กรมวิชาการเกษตร ติดตามการส่งออกผลไม้ผ่านด่านตรวจพืชนครพนม เน้นย้ำค่านิยม “ผลไม้ไทย ผลไม้คุณภาพ”

0
111

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วย ดร.พงศ์ไท ไทโยธิน รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ติดตามผลการปฏิบัติงานสถานการณ์การค้าชายแดน และการส่งออกผลไม้ผ่านทางด่านตรวจพืชนครพนม โดยมี นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางสาวสายสุณี ปั้นพงษ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม เข้าร่วมติดตามผลการปฏิบัติงาน  ณ ห้องประชุมศุลกากรนครพนม โดย นางจินตนา สุมขุนทด หัวหน้าด่านตรวจพืชนครพนม รายงานผลการปฏิบัติงานรวมถึงสถานการณ์การส่งออกผลไม้ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงต้นฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออก  

ด่านตรวจพืชนครพนม เป็นด่านนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรทางบก  1 ใน 6 ด่านตรวจพืชของไทย ที่ได้รับการอนุญาตให้นำเข้า และส่งออกผลไม้ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ตาม “พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย” ด่านตรวจพืชนครพนม ดำเนินการในระบบใบรับรองสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ (e-Phyto) ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเริ่มนำร่องใช้กับการส่งออกผลไม้สดไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ส่งออก เนื่องจากมีความสะดวกรวดเร็ว ในการดำเนินการด้านเอกสาร รวมถึงการแจ้งตรวจสินค้า ณ โรงคัดบรรจุ เป็นกระบวนการที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับข้อมูลการส่งออกต่างๆ ได้ เช่น ที่มาของผลผลิตจากสวนที่ได้รับการรับรอง GAP การคัดบรรจุจากโรงคัดบรรจุที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร (GMP, DOA)

การปฏิบัติงานของด่านตรวจพืชนครพนมจัดเป็นด่านตรวจพืชปลายทางของสินค้าก่อนที่จะมีการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการส่งออก รวมถึงหลักฐานประกอบการส่งออกจากผู้ส่งออก ในระบบใบรับรองสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อป้องกันการแสดงหลักฐานเท็จ และการสวมสิทธิ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากตรวจสอบแล้วถูกต้องจะส่งข้อมูลเพื่อแจ้งตรวจสอบสินค้า ณ โรงคัดบรรจุไปยังด่านตรวจพืชต้นทางของสินค้า เช่น การส่งออกทุเรียนสดของพื้นที่ภาคตะวันออกจะส่งข้อมูลไปยังด่านตรวจพืชจันทบุรี ด่านตรวจพืชท่าเรือคลองใหญ่ และด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบศัตรูพืชและตรวจรับรองสุขอนามัยพืชผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และหากผ่านการตรวจรับรอง ด่านตรวจพืชนครพนมจะเป็นผู้ออกใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) ให้แก่ผู้ส่งออก

ขั้นตอนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชนครพนมจะตรวจสอบการปล่อยรถสินค้าทุเรียนสดไปยังนอกราชอาณาจักร ณ ฝั่งขาออกของด่านศุลกากรนครพนม บริเวณสะพานมิตรภาพ 3 อีกครั้ง เพื่อป้องกันการนำใบรับรองสุขอนามัยพืชของไทยไปใช้เพื่อสวมสิทธิ์ผลผลิตที่ไม่ได้มาจากประเทศไทย สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่า ผลผลิตทุเรียนสดมาจากแหล่งผลิตประเทศไทยเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพจากสวนและคัดบรรจุจากโรงคัดบรรจุที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร

สถิติการส่งออกทุเรียนสดปี 2564 ที่มีการลงนามและประกาศใช้พิธีสารการส่งออกผลไม้ไทย-จีน มีการส่งออกทุเรียนสดผ่านด่านนครพนม จำนวน 24,533 ตู้ คิดเป็นมูลค่ากว่า 47,500 ล้านบาท ปี 2565 ที่มีการระบาดของเชื้อโควิด–19 ประกอบกับจีนใช้มาตรการ Zero-Covid กับสินค้าที่นำเข้า ทำให้มูลค่าการส่งออกทุเรียนลดลงจากปี 2564 กว่าร้อยละ 70 เหลือ 7,445 ตู้ มูลค่า 6,008 ล้านบาท

ในฤดูกาล 2566 นี้ พบว่า การส่งออกทุเรียนคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากการยกเลิกมาตรการ  Zero-Covid มีการส่งออกทุเรียนสดตั้งแต่เดือนมกราคม – 15 เมษายน 2566 จำนวน 4,012 ตู้ คิดเป็นมูลค่า 8,400 ล้านบาท และพบว่ามีแนวโน้มในการส่งออกเพิ่มขึ้น เส้นทางการขนส่งในปัจจุบันถือว่ามีความคล่องตัวและมีเส้นทางการขนส่งตามที่กำหนดในพิธีสารฯ ที่ผู้ส่งออกสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสม และเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมาได้มีการนำเข้าทุเรียนสด จำนวน 12.18 ตัน ทางด่านเหอโข่ว (Hekou) ของจีนเป็นตู้แรก ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีด้านการเพิ่มเส้นทางการขนส่งผลไม้ให้มีความหลากหลายและสามารถกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างทั่วถึง       

“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องการให้การส่งออกทุเรียนสดไทยมีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร  ภารกิจการติดตาม “แนวทางการปฏิบัติการส่งออกทุเรียนสดของไทยไปจีนผ่านประเทศที่สาม” จึงเป็นภารกิจที่กรมวิชาการเกษตรต้องดำเนินการให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งในการส่งออกทุเรียนไทย รวมถึงการป้องกันการสวมสิทธิ์ เพื่อรักษาสัญญากับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เรามาร่วมกันทำให้ ผลไม้ไทย เป็นผลไม้ที่ดีที่สุดในโลก ด้วยค่านิยม “ผลไม้ไทย ผลไม้คุณภาพ” (Premium Thai Fruits)” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว