นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ดร. อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า เร่งลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุเรือประมงจม บริเวณแม่น้ำคลองด่าน จ.สมุทรปราการ จึงมอบหมายให้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ เร่งสอบสวนหาสาเหตุดังกล่าว และดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
วันที่ 11 ธันวาคม 2565 เวลา ประมาณ 07.30 น. สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสมุทรปราการ (ศคท.จ.สป.) มีเรือประมงจมหน้าท่าเรือประมง (ท่าเรือเทียนชัย 3) บริเวณแม่น้ำคลองด่าน จึงลงพื้นที่เร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบเรือ ชื่อ ไทยรุ่งทิพย์การประมง 8 หมายเลขทะเบียนเรือ 310904819 ประเภทเรือ เรือกลเดินทะเลชั้น 1 ขนาด 74.58 ตันกรอส โดยมี นางบุษกล จิรโอฬารเมธ เป็นเจ้าของเรือดังกล่าว
จากการตรวจสอบเจ้าของเรือให้การว่า เรือลำดังกล่าว ได้กลับจากการทำประมงเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 08.00 น. และได้ขนถ่ายสัตว์น้ำขึ้นจากเรือจนเสร็จ และช่วงเย็นของวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ได้ลงน้ำมันเรือ ลงน้ำแข็ง และเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อเตรียมออกทำการประมงในวันถัดไป โดยในช่วงเช้าของวันที่ 11 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 06.00 น. เรือเกิดประสบปัญหาน้ำเข้ากราบเรือด้านขวา เนื่องจากช่วงเวลาที่น้ำลงต่ำสุด เรือได้เกยตื้นและเอียง พอช่วงน้ำขึ้น เรือได้จมอยู่ในโคลนหน้าท่าเทียบเรือและเรือไม่ลอยขึ้น จึงทำให้น้ำค่อยๆ ล้นเข้ากราบขวาของเรือจนเรือจมและเอียง เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ไม่มีน้ำมันรั่วไหล และไม่กีดขวางทางเดินเรือ และขณะนี้เจ้าของเรือกำลังเร่งกู้เรือขึ้นจากน้ำและจะเร่งสูบน้ำออกโดยเร็ว
สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้ดำเนินการ ออกคำสั่งงดใช้เรือ และออกคำสั่งให้กู้เรือพร้อมเฝ้าระวังและเตรียมสารขจัดคราบน้ำมัน ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับน้ำมันรั่วไหล โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการ ได้แก่ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก (ศวบอ.) และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 (เข้าศึกษาข้อมูลและเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณจุดเรือจม และบริเวณอื่นๆ) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศบริเวณดังกล่าวด้วย
