กรมทางหลวง โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นโนรู สถานการณ์ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2565 เวลา 13.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ในพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์, จ.บุรีรัมย์, จ.นครราชสีมา ,จ.หนองบัวลำภู , จ.อุบลราชธานี , จ.ร้อยเอ็ด , จ.มหาสารคาม , จ.ยโสธร , จ.สระบุรี , จ.ลพบุรี , จ.สุพรรณบุรี , จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา , จ.สิงห์บุรี , จ.นครสวรรค์ , จ.ปราจีนบุรี และ จ.เพชรบุรี จำนวน 50 สายทาง 78 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 28 แห่ง ดังนี้
1. จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง
– ทางหลวงหมายเลข 2131 บ้นสะอาด – เหล่านางาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 6+700 – 7+200 ระดับน้ำ 40 – 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
– ทางหลวงหมายเลข 2065 พล – ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150 – 34+000 ระดับน้ำ 35 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
– ทางหลวงหมายเลข 2183 น้ำพอง – โคกท่า ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ช่วง กม.ที่ 14+500 – 15+100 ระดับน้ำ 40 – 45 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแยกโคกท่า กม.25+600
2. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8 แห่ง
– ทางหลวงหมายเลข 226 ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+000 – 313+384 ระดับน้ำ 60 – 80 ซม. แ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2178
– ทางหลวงหมายเลข 2083 หัวช้าง – สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000 – 19+500 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
– ทางหลวงหมายเลข 2086 บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500 – 29+000 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
– ทางหลวงหมายเลข 2086 บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
– ทางหลวงหมายเลข 2086 เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500 – 107+125 ระดับน้ำ 80 – 90 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
-ทางหลวงหมายเลข 2086 บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 37+000 – 39+500 ระดับน้ำ 50 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้
– ทางหลวงหมายเลข 2373 โนนสำนัก – ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+050 ระดับน้ำ 40 – 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
– ทางหลวงหมายเลข 2412 ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 60 – 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
3. จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 1 แห่ง
– ทางหลวงหมายเลข 2378 จอมพระ – สะพานบุรีรินทร์ ในพื้นที่ อ.จอมพระ ช่วง กม.ที่ 18+900 – กม.20+040 ระดับน้ำ 20 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
4. จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง
– ทางหลวงหมายเลข 2146 หนองบัวลำภู – เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+000 ระดับน้ำ 20 – 65 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทช.4013
5. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 8 แห่ง
– ทางหลวงหมายเลข 24 วารินชำราบ – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 115 ซม. แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี
-ทางหลวงหมายเลข 23 เขื่องใน – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 259+700 – 261+800 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
-ทางหลวงหมายเลข 23 เขื่องใน – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 274+840 น้ำกัดเซาะข้างท่อเหลี่ยม ทำให้ถนนทรุด (ปิดการจราจรขาออก ใช้ทางเบี่ยง)
– ทางหลวงหมายเลข 226 ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400 – 313+700 ระดับน้ำ 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
– ทางหลวงหมายเลข 226 ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 319+800 ระดับน้ำ 130 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
– ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600 – 8+200 ระดับน้ำ 105 – 135 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231
– ทางหลวงหมายเลข 2404 เขื่องใน – นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 14+120 – 14+550 ระดับน้ำ 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2408 และ 2382
– ทางหลวงหมายเลข 2412 ท่าวารี – ท่าศาลา ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 9+500 – 10+325 ระดับน้ำ 15 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
6. จังหวัดลพบุรี จำนวน 1 แห่ง
– ทางหลวงหมายเลข 205 ม่วงค่อม – คลองห้วยไผ่ ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 58+900 – 59+500 ระดับน้ำ 35 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
7. จังหวัดอ่างทอง จำนวน 3 แห่ง
– ทางหลวงหมายเลข 33 นาคู – ป่าโมก ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000 – 36+200 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
– ทางหลวงหมายเลข 3501 อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 9+900 – 10+400 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
– ทางหลวงหมายเลข 3501 อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 10+400 – 11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
8. จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 3 แห่ง
– ทางหลวงหมายเลข 311 แยกวัดสนามไชย – วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 33+500 – 36+000 ระดับน้ำ 105 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030
– ทางหลวงหมายเลข 311 วัดกระดังงา – บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 40+900 – 42+700 ระดับน้ำ 90 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)
– ทางหลวงหมายเลข 311 วัดกระดังงา – บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 57+400 – 57+850 ระดับน้ำ 60 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเผ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1