รู้ยัง?เถ้าแก่ขนส่งฝ่าฝืนไม่ดูแลรถตามข้อหนดทุก6เดือนปรับอ่วม5หมื่น

0
196

มาอีกแล้ว!บรรดาเถ้าแก่ขนส่งทั้งรถโดยสารประจำทาง-ไม่ประจำทาง ขนส่งรถขนาดเล็ก เหมาเข่งถึงรถบรรทุก-ขนส่งส่วนบุคคลต้องรับรู้รับทราบเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารที่กรมขนส่งฯออกข้อกำหนดเงื่อนไขการบำรุงรักษารถ 10 รายการในทุก 6 เดือน หรือ 4 หมื่นกม.แล้วเก็บประวัติไว้ใน Log Book และต้องนำมาแสดงเมื่อนำรถเข้ามาตรวจสภาพรถที่สำนักงานขนส่ง

ย้ำว่าเป็นเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่งที่ต้องปฏิบัติตามหากฝ่าฝืนมีปรับสูงสุด 5หมื่นบาท อีกทั้งยังอาจส่งผลต่อการพิจารณาการต่อใบอนุญาตประกอบการขนส่งอีกด้วย ซึ่งขนส่งฯยกเหตุผลเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานรถ และลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุอันมีสาเหตุมาจากสภาพเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถขาดความสมบูรณ์ โดยมีผลบังคับใช้กลุ่มแรกตั้งแต่วันนี้(1ต.ค.65)เป็นต้นไป

โดยรายละเอียดจากออกข้อกำหนดเงื่อนไขนี้ ท่านโฆษกกรมขนส่งฯเปิดเผยว่าตามที่กระทรวงคมนาคมได้มีกฎกระทรวงกำหนดเงื่อนไขการบำรุงรักษารถไว้ในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง พ.ศ. 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งทำการตรวจสอบและบำรุงรักษารถเมื่อครบตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานรถและลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุอันมีสาเหตุมาจากสภาพเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถขาดความสมบูรณ์

ซึ่งกรมฯโดยความเห็นชอบรมว.คมนาคมได้มีประกาศ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการบำรุงรักษารถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 โดยมีเนื้อหากำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประเภทการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง การขนส่งโดยรถขนาดเล็ก และการขนส่งส่วนบุคคล ให้มีการบำรุงรักษารถตามระยะเวลาทุก 6 เดือน หรือระยะทาง 4หมื่นกม.

ทั้งนี้จะทำการบำรุงรักษาตามระยะทางหรือระยะเวลาที่น้อยกว่า หรือจะบำรุงรักษารถตามระยะทางหรือระยะเวลาที่ผู้ผลิตรถกำหนดก็ได้ ประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 21 ก.ย. 2565 โดยรถกลุ่มแรกต้องเริ่มทำการบำรุงรักษาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป

สำหรับขั้นตอนการบำรุงรักษารถนั้น ผู้ประกอบการขนส่งสามารถนำรถเข้าทำการบำรุงรักษาได้ตามช่องทางต่างๆ ได้แก่ ศูนย์บริการของผู้ผลิตรถ อู่รับซ่อมรถทั่วไป หรือศูนย์ซ่อมของผู้ได้รับใบอนุญาตหรือเจ้าของรถ ทั้งนี้รายละเอียดรายการที่ต้องบำรุงรักษารถ มีจำนวน 10 รายการ ได้แก่

1.ระบบเครื่องยนต์ 2.ระบบไอเสีย 3.ระบบส่งกำลัง 4.ระบบบังคับเลี้ยว 5.ระบบห้ามล้อ 6.ระบบรองรับน้ำหนัก 7.ระบบไฟฟ้า ไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณ 8.กงล้อและยาง 9.ตัวถัง และ10.ระบบเชื้อเพลิง

และให้บันทึกประวัติการบำรุงรักษารถลงในใบแบบบันทึกการบำรุงรักษารถ (Log Book) และจะต้องนำมาแสดงเมื่อนำรถเข้ามาตรวจสภาพรถที่สำนักงานขนส่ง โดยนายช่างตรวจสภาพรถจะทำการตรวจสอบสภาพรถเปรียบเทียบกับแบบบันทึกการบำรุงรักษารถว่ามีการบำรุงรักษาสอดคล้องตามที่ได้บันทึกไว้หรือไม่ และบันทึกข้อมูลการบำรุงรักษารถลงในระบบบันทึกข้อมูลการตรวจสภาพรถของกรมการขนส่งทางบก

โดยในการเริ่มต้นบำรุงรักษารถ กำหนดระยะเวลาการนำรถเข้าบำรุงรักษาตามรอบสิ้นงวดภาษี ดังนี้

-รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 1 ของปี 2565 เริ่มบำรุงรักษา 1 เม.ย. 2566

-รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 2 ของปี 2565 เริ่มบำรุงรักษา 1 ก.ค. 2566

-รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 3 ของปี 2565 เริ่มบำรุงรักษา 1 ต.ค. 2565

-รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 4 ของปี 2565 เริ่มบำรุงรักษา 1 ม.ค. 2566

ท่านโฆษกกรมขนส่งฯยังย้ำทิ้งท้ายด้วยว่ากรมขนส่งฯขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งให้นำรถมาบำรุงรักษาตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเพื่อความพร้อมของรถ และความปลอดภัยในการให้บริการประชาชน ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเนื่องจากอุบัติเหตุ และเนื่องจากการบำรุงรักษารถได้ถูกกำหนดเป็นเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่งตามมติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง

ดังนั้น การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขจะถือว่าเป็นความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และอาจส่งผลต่อการพิจารณาการต่อใบอนุญาตประกอบการขนส่งต่อไปด้วย

สิ้นสุดข้อมูลข่าวสารนี้หวังว่าจะชัดเชนและแจ่มแจ้งนะครับทุกคน!แม้พอจะเข้าใจหัวอกกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งที่อาจมองว่าเป็นเรื่องจุกจิกหยุมหยิมและเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายทั้งที่แต่ละเจ้าก็บำรุงดูแลรถในมาตรฐานตัวเองอยู่แล้ว ทว่า หากมองในมุมความปลอดภัยถือเป็นการยกระดับมาตรฐานเดียวกันให้ทุกคนต้องปฏิบัติตาม

เพราะ…มีหลายเคสที่เกิดโศกนาฎกรรมหมู่เพียงเพราะความหละหลวมไม่ใส่ใจดูแลรถภายใต้มาตรฐานที่ควรจะเป็น!

:ปีศาจขนส่ง