‘การบินไทย’ประกาศงบไตรมาส 2 ปี 2565 ขาดทุน 3,220 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งแรกของปี ขาดทุนรวม 6,467 ล้านบาท ชี้จากค่าน้ำมันเครื่องบินพุ่งสูง ต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูง ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
(15 ส.ค. 2565) บมจ.การบินไทย (THAI) ผู้ให้บริการสายการบินไทย สายการบินแห่งชาติของประเทศ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 และช่วงครึ่งแรกของปีนี้ (1 ม.ค. – 30 มิ.ย.)
โดยพบว่า ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เผชิญผลขาดทุน 3,221 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไร 23,327 ล้านบาท เช่นเดียวกับช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่ขาดทุน 6,467 ล้านบาท จากปีก่อนกำไร 11,125 ล้านบาท
บริษัทฯ ระบุในหนังสือที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ในไตรมาส 2 อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนไทยก็ผ่อนคลายมาตรการเข้า-ออก ก่อนจะเปิดประเทศเต็มรูปแบบวันที่ 1 มิ.ย.
ส่งผลให้ในไตรมาสที่ผ่านมา ปริมาณกาารผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นสูงถึง 366.6% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาย (RPK) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนสูงขึ้นมาก
ทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้การบินไทย มีรายได้รวม 21,526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 282% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 15,831 ล้านบาท หากดูในรายละเอียด พบว่าหลักๆแล้วรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า เพิ่มขึ้นสูงถึง 17,050 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 619.3% และรายได้จากการบริการอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้น 272 ล้านบาท หรือ 20.3%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างหนี้ โครงสร้างองค์กร โครงสร้างค่าจ้างพนักงาน รวมถึงกำไรจากการขายเงินลงทุนและทรัพย์สินอีกด้วย แต่ในทางกลับกัน การบินไทยมีค่าใช้จ่ายรวมสูงถึง 22,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,741 ล้านบาท หรือ 126.3% เลยทีเดียว โดยเฉพาะค่าน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นสูงมากจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูง 104.1%
นอกจากนี้ ยังมีต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3,102 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 4,045 ล้านบาท หรือ 425.8% ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ