ถอดเคล็ดลับความสำเร็จของฟาร์มเมล่อนญี่ปุ่นแท้เกรดพรีเมี่ยม SunFruit MELON กับแนวคิดที่ต้องการปลูกเมล่อนญี่ปุ่นในประเทศไทยให้เทียบเท่ากับประเทศญี่ปุ่น ที่สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ส่งตรงถึงหน้าบ้าน กับบริการเบสท์ ฟาสท์ แทร็ค (BEST Fast Track) ส่งพัสดุด่วนพิเศษถึงวันถัดไปของ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) เพื่อคงคุณภาพความสดใหม่ของเมล่อนญี่ปุ่นถึงมือลูกค้า
นายทวิรัตน์ พิริโยทัยสกุล เจ้าของและผู้จัดการฟาร์มเมล่อนญี่ปุ่น Sunfruit MELON กล่าวถึงจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจว่า เริ่มจากอยากทำฟาร์มเมล่อนญี่ปุ่นแท้ที่ใช้เมล็ดนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง นำมาทดลองปลูกในไทยเพื่อหาสายพันธุ์ที่เหมาะสมโดยยังคงคุณสมบัติของเมล่อนญี่ปุ่น คือความหอมและเนื้อสัมผัสที่นุ่มละลายในปากไว้ ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่นำเข้าเมล่อนจากญี่ปุ่นเป็นไปได้ยาก จึงทำให้เมล่อนจากฟาร์มของเราได้รับความสนใจสั่งซื้อจากลูกค้าจำนวนมาก ทุกออเดอร์จะต้องสั่งจองไว้ล่วงหน้าเท่านั้น เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วจึงจะจัดส่งเมล่อนให้ลูกค้า โดยขั้นตอนการขนส่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เมล่อนเป็นผลไม้ต้องทานสด ค่อนข้างบอบบางได้รับความเสียหายได้ง่าย ทำให้จำเป็นต้องจัดส่งอย่างรวดเร็ว เพราะระยะเวลาในการขนส่งมีผลต่อคุณภาพของเมล่อน เราจึงต้องเก็บเกี่ยวเมล่อนในช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดและส่งถึงมือลูกค้าให้ไวที่สุด
“ได้รู้จัก BEST Express ผ่านการแนะนำของรุ่นพี่ จุดเด่นของ BEST ที่ตอบโจทย์ของเราคือความรวดเร็วในการขนส่งสินค้า มีบริการพิเศษ BEST Fast Track ที่ทำให้ลูกค้าของเราได้รับเมล่อนหลังจากที่ส่งออกไปภายในเวลา 1 วันหรือใกล้เคียง ทำให้ได้รับเมล่อนสด ๆ หลังจากเก็บทันที เมื่อเปลี่ยนมาใช้บริการ BEST Express ได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า เมล่อนไปถึงมือลูกค้าได้เร็วขึ้น ทำให้ก้านของเมล่อนยังสด รูปร่างหน้าตาของเมล่อนยังคงสภาพดี ลูกค้าก็พอใจกับคุณภาพ เพราะยิ่งขนส่งได้เร็วความสดใหม่ของเมล่อนก็จะสูงตามไปด้วย และถือว่าความเสียหายของผลผลิตเกิดขึ้นน้อยมาก” นายทวิรัตน์ กล่าว
สำหรับความประทับใจที่มีต่อ BEST Express คือการมีทีมประสานงานที่ดีทำให้คุยงานได้ง่าย สามารถส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง ซึ่งตั้งแต่ใช้บริการ BEST Express มา แทบจะไม่เคยได้รับฟีดแบคที่ไม่ดีจากลูกค้า เพราะสินค้าไปถึงลูกค้าอย่างครบถ้วน ปลอดภัย
บริการ เบสท์ ฟาสท์ แทร็ค (BEST Fast Track) ส่งพัสดุด่วนพิเศษ เป็นการจัดส่งพัสดุด่วนพิเศษจาก “ผู้ส่งพัสดุต้นทาง” ไปถึง “ผู้รับพัสดุปลายทาง” ภายในวันถัดไป (Next Day Delivery) ตามระยะเวลาการจัดส่ง (SLA) ที่บริษัทฯ กำหนด ให้บริการเฉพาะจัดส่งพัสดุด่วนพิเศษ ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 0.5 – 20 กิโลกรัม โดยคิดค่าบริการเพิ่มเติมจากค่าขนส่งมาตรฐาน คือ น้ำหนักตั้งแต่ 0.5 – 10 กิโลกรัม คิดอัตราค่าบริการเพิ่มเติม 15 บาท และน้ำหนักตั้งแต่ 11 – 20 กิโลกรัม คิดอัตราค่าบริการเพิ่มเติม 30 บาท โดยลูกค้าสามารถใช้บริการเสริม BEST Fast Track ได้ที่สาขาใกล้บ้าน และชำระค่าใช้จ่าย ณ จุดบริการที่สาขา สนใจใช้บริการสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3kMbUgA หรือแอด LINE Official Account: @BESTEXPRESSTH คลิกลิงก์ที่นี่ http://nav.cx/yKWubHS