ครบรอบ 25 ปี ฮ่องกงคืนสู่มาตุภูมิจีน การยืนยัน “อนาคตฮ่องกง” กับสังคมโลก

0
105

ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี การกลับคืนสู่มาตุภูมิจีนของฮ่องกง เมื่อวันศุกร์ 1 ก.ค. 2022 ไม่เพียงเป็นการแสดงออกถึงความยินดีของประชากรจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นความยินดีและจับตามองอนาคตของฮ่องกงและจีน ภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” จากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย

ภูวนารถ ณ สงขลา นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน กล่าวถึงวาระการเฉลิมฉลองฯ ที่นอกจากจะร่วมแสดงความยินดีอย่างยิ่งในครั้งนี้แล้ว ยังยืนยันได้ว่า สื่อมวลชนไทยล้วนให้ความสำคัญกับการครบรอบ 25 ปี กลับคืนสู่มาตุภูมิจีนของฮ่องกง และมีการรายงานข่าวของเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด

ประการสำคัญที่ทำให้ประเทศไทย และสังคมโลกให้ความสนใจเกี่ยวกับอนาคตของฮ่องกง ก็เนื่องมาจากตลอดมา ฮ่องกงถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การเงิน การค้าและการลงทุน ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกิดขึ้น จึงล้วนแล้วแต่มีความสำคัญอย่างที่สุด

การกล่าวสุนทรพจน์ ของ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จึงได้รับความสนใจจากทั่วโลกว่าจะมีการยืนยันความเชื่อมั่นให้กับทั้งประชาชนจีนและสังคมโลกได้อย่างไร ซึ่งต้องยอมรับว่า ใจความในการกล่าวยืนยันของ สี จิ้นผิง ได้ทำให้ทั้งโลกเกิดความเชื่อมั่นจากประโยคที่ว่า

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า และพิสูจน์ให้เห็นว่า  นโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” สอดคล้องกับผลประโยชน์มูลฐานของบ้านเมืองและประชาชาติ  สอดคล้องกับผลประโยชน์มูลฐานของฮ่องกงและมาเก๊า    จึงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากประชาชนจำนวนกว่า 1,400 ล้านคนของมาตุภูมิ  และได้รับการยกย่องเป็นเอกฉันท์จากชาวฮ่องกงและชาวมาเก๊า  อีกทั้งได้รับความเห็นชอบโดยทั่วไปของประชาคมโลกด้วย  จึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายอันดีเช่นนี้ กลับจำเป็นต้องปฏิบัติตามให้เป็นเวลายาวนาน”

สะท้อนชัดด้วยคำยืนยันที่ชัดเจนว่า รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ชุดที่ 6 จะรักษาสถานะการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การขนส่ง และการค้าระดับโลก และดูแลบริหารเศรษฐกิจของฮ่องกงให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ดังเช่นที่เป็นมาตลอด 25 ปี

ที่สำคัญในเรื่องของเยาวชนคนรุ่นใหม่ คนหนุ่มสาวฮ่องกง ก็ยังดำรงความสำคัญในแนวนโยบายของจีน โดย สี จิ้นผิง ย้ำถึงความจำเป็นในการสนับสนุนคนหนุ่มสาวฮ่องกงเอาชนะความยากลำบากหลายประการ ทั้งในด้านการศึกษา การจ้างงาน การเริ่มต้นธุรกิจ และการซื้อที่อยู่อาศัย รวมถึงการสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่มากขึ้น

“เมื่อคนหนุ่มสาวเจริญรุ่งเรือง ฮ่องกงก็จะเจริญรุ่งเรือง เมื่อคนหนุ่มสาวเติบโต ฮ่องกงก็จะเติบโต เมื่อมีอนาคตสำหรับคนหนุ่มสาว ก็จะมีอนาคตสำหรับฮ่องกงเช่นกัน” สี จิ้นผิง กล่าวยืนยัน และยังระบุด้วยว่า “ต้องให้ผู้รักชาติบริหารฮ่องกงอย่างจริงจัง อำนาจการเมืองต้องกุมอยู่ในมือของผู้รักชาติ เพื่อหลักประกันความมั่นของการบริหารฮ่องกง”

ทั้งยังยืนยันด้วยว่า กฎหมายที่มีอยู่เดิมของฮ่องกง จะได้รับการอนุรักษ์และพัฒนา เพื่อให้สังคมของฮ่องกงยังคงมีเสถียรภาพในภาพรวม

สุนทรพจน์ที่ยืนยันทั้งอนาคตของฮ่องกง และบทบาทในการเป็นสะพานเชื่อมโลกของฮ่องกง เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งโลกนั้น จริงๆแล้ว สี จิ้นผิง ไม่ใช่เพิ่งจะกล่าวถึงทิศทางนโยบายจีนเฉพาะในโอกาสนี้ แต่ได้มีการกล่าวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ล่าสุดในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 14 ก็ได้กล่าวยืนยันถึงการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนคุณภาพสูง  เปิดศักราชใหม่แห่งการพัฒนาของโลก โดยระบุว่า ความร่วมมือของกลุ่มประเทศบริกส์ มีเป้าหมายเพื่อปูทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อปูทางสู่ความมั่นคงทั่วโลก

ด้วยเหตุนี้เอง ต้องจดจารึกไว้ว่า การหวนคืนสู่มาตุภูมิของฮ่องกงครบรอบ 25 ปี ในวันนี้ได้เปิดศักราชใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของเขตบริหารพิเศษแห่งนี้ ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับ “ฮ่องกง” ที่จะต้องก้าวเดินไปสู่ความรุ่งโรจน์ให้ได้ตามเป้าหมาย

เรื่องโดย ภูวนารถ ณ สงขลา นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน