“ศักดิ์สยาม” เช็ก Action Plan 7 พื้นที่ใต้ทางด่วน

0
95

“ศักดิ์สยาม”ติดตามงาน 7 พื้นที่ใต้ทางด่วนกว่า 189.5 ไร่ สั่งกำชับการเวนคืนที่ดิน และให้พิจารณารูปแบบห้ชัดเจน ขณะที่พื้นที่บริเวณใต้ด่านฯ อโศก เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ปัจจุบันพันธมิตรได้ขอชะลอการเข้าร่วมดำเนินโครงการ เหตุกระทบสถานการณ์โควิด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมติดตามการสร้างสรรค์พื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)ว่า เบื้องต้น กทพ.ได้มีการศึกษาพื้นที่ในเขตทางพิเศษที่มีความเหมาะสมจะนำมาใช้ประโยชน์สาธารณะใน 7 แห่ง พื้นที่รวมกว่า 189.5 ไร่ ประกอบด้วย บริเวณใต้ด่านฯ อโศก, บริเวณถนนสุขุมวิท (เพลินจิต), บริเวณถนนสีลม, บริเวณบางโปรง, บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, บริเวณ กม.16 และ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากพื้นที่เขตทางที่ กทพ. จะนำมาใช้ประโยชน์สาธารณได้ทั้งหมด 2,900 ไร่ ขณะเดียวกันให้ กทพ.ไปจัดทำขั้นตอน กิจกรรม ในแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ให้ชัดเจน เพื่อให้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานได้ และให้ กทพ. นำข้อมูลที่สะท้อนภาพความเป็นจริง และพยากรณ์ปัจจัยต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดในอนาคต ในส่วนของการศึกษาการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษด้วย

นอกจากนั้น ได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) บูรณาการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้อง ในกรณีมีโครงการที่ต้องมีการเวนคืนที่ดินให้พิจารณาการใช้ประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ควบคู่เข้าไปกับการเวนคืนด้วย ประกอบกับให้นำผลการศึกษาตัวอย่างจากการพัฒนาโครงการในต่างประเทศในการชดเชยรายได้ในแต่ละโครงการ มาประกอบเพื่อดำเนินโครงการ เนื่องจากหากมีการนำพื้นที่ที่เวนคืนมาพัฒนาเชิงพาณิชย์จะช่วยลดภาระค่าบริการของประชาชนจากการใช้บริการโครงการได้ ขณะเดียวกัน ให้ กทพ. พิจารณารูปแบบ Service area แบบคร่อมทางพิเศษในลักษณะเดียวกับประเทศเกาหลีใต้ โดยเน้นการพัฒนาพื้นที่ในแนวดิ่งและด้านข้างให้มีความทันสมัยและสอดรับกับพื้นที่ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ในแนวราบเพียงอย่างเดียว เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้พื้นที่

พื้นที่ใต้ทางด่วนอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
พื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

สำหรับพื้นที่ทั้ง 7 แห่ง ประกอบด้วย 1.พื้นที่บริเวณใต้ด่านฯ อโศก เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ปัจจุบันพันธมิตรได้ขอชะลอการเข้าร่วมดำเนินโครงการเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประกอบกับพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นที่ซ้อนทับโครงการก่อสร้างและปรับปรุงทางพิเศษขั้นที่ 2 (Double Deck) จึงอาจจะต้องปรับแนวทางในการพัฒนาพื้นที่อีกครั้ง

2.บริเวณถนนสุขุมวิท (เพลินจิต) เนื้อที่ 4.5 ไร่ กทพ. มีแผนเปิดให้เช่าพื้นที่ชั่วคราว คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 69 , บริเวณถนนสีลม เนื้อที่ 4 ไร่ กทพ. มีแผนจะพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์และสาธารณประโยชน์ควบคู่กัน คาดว่าจะเริ่มได้ในปี 66 ส่วนบริเวณบางโปรง เนื้อที่ 50 ไร่ เป็นพื้นที่ที่เวนคืนเพื่อรองรับการก่อสร้างจุดให้บริการบนทางพิเศษ (Service Area) ขณะนี้อยู่ระหว่างการจ้างศึกษาและวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการ โดยการให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) คาดว่าจะได้ผู้ร่วมลงทุนประมาณปี 68

ส่วนบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เนื้อที่ 98 ไร่ เป็นพื้นที่ที่เวนคืนเพื่อใช้เป็นจุดจอดแล้วจร (Park and Ride) ขณะนี้อยู่ระหว่างการจ้างศึกษาและวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการโดยการให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) คาดว่าจะได้ผู้ร่วมลงทุนประมาณปี 68 , บริเวณ กม.16 เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ เป็นพื้นที่ในเขตทางพิเศษอุดรรัถยาเพื่อรองรับการก่อสร้างจุดแวะพัก (Rest Area) ขณะนี้บริษัท ปตท. น้ำมันและค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) มีความสนใจโครงการดังกล่าว เพื่อพัฒนาพื้นที่ก่อสร้างสถานีให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิง และร้านค้าเพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ทางพิเศษ

และ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื้อที่ 10 ไร่ เป็นพื้นที่ในเขตทางพิเศษศรีรัช จะแบ่งพัฒนาพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ (1) ช่วงถนนพหลโยธิน (ด่านฯ พหลโยธิน 1) ถึงถนนดินแดง พัฒนาเป็นร้านค้า ทางเดินลอยฟ้า พื้นที่จอดรถ และพื้นที่สาธารณะ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 67 (2) ช่วงถนนพหลโยธิน ถึงด่านฯ พหลโยธิน 2 พัฒนาเป็นศูนย์บริการรัฐวิสาหกิจ ร้านค้า ทางเดินลอยฟ้า พื้นที่จอดรถ และพื้นที่สาธารณะ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 69