ก่อนรูดม่านปี 2559 ทุกภาคส่วนล้วนจับตาแนวโน้มการขยายตัวจีดีพีเศรษฐกิจไทยปีไก่ 2560ว่าจะไฉไลมากน้อยแค่ไหน แต่พลันที่ภาครัฐโหมโรงข่าวสารพลางโปรยยาหอมถึงทิศทางเศรษฐกิจปีไก่จะโตต่อเนื่องจากปีแล้ว โดยเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจสุดลิ่มผ่านโครงการกระทุ้งเศรษฐกิจต่างๆ พร้อมเร่งอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบให้มากที่สุด เพื่อหวังนำพาเศรษฐกิจไทยพุ่งชนการขยายตัวอย่างที่ใครต่อใครคาดหวัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโหมกระหน่ำลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในทุกๆโหมด ที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างและมีการประมูลการก่อนสร้างไปบ้างแล้วในหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ สนามบิน และท่าเรือ ที่นัยส่งอานิสงส์หนุนจีดีพีเศรษฐกิจไทยปีไก่ได้ถึง1-2 เปอร์เซ็นต์ เล่นเอาบรรดาอาเฮียอาซ้อในแวดขนส่ง ตลอดถึงทุกห่วงโซ่ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ นั่งไม่ติดต้องง้างเข่า “ความหวังอันสูงสุด”ตั้งแต่อยู่ในมุ้งพร้อมเปิดรูจมูกให้กว้างเพื่อสูดดมยาหอมที่ภาครัฐโปรยปรายให้เต็มเปา
ขณะที่ค่ายรถบรรทุกน้อยใหญ่ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และจีนไม่อาจหยุดนิ่งต่างก็เตรียดงัดแผนการลงทุนและกลยุทธ์การตลาดในทุกมิติกันระเบิดเถิดเทิง เพื่อขับเคลื่อนแบรนด์เข้าสู่สมรภูมิ สร้างทางเลือกให้กับผู้ขนส่ง และพร้อมพุ่งทะยานชนสัดส่วนตลาดให้มากที่สุด คาดส่งผลให้ตลาดรถใหญ่ปีนี้ฝุ่นตลบอบอวนเป็นแน่
ฮีโน่ หวังพุ่งชนเป้าโตเกิน 45%
ประเดิมด้วยค่ายยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบอย่าง “ฮีโน่” โดยกรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮีโน่ มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด “อำนวย พงษ์วิจารณ์” เปิดเผยว่า กล่าวว่าปีที่แล้วถือเป็นปีที่ดีอย่างมากสำหรับฮีโน่ เพราะเราสามารถทำยอดขายได้เป้าที่วางไว้ถึง 12,700 คัน หรือโตถึง 45 %
“ส่วนยอดขายที่เราตั้งไว้ปีนี้ต้องโตกว่า 45 % ซึ่งเราได้วางกลยุทธ์การตลาดไว้ในทุกๆรุ่น เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ประกอบการขนส่งเมืองไทยให้ได้ 100% อีกทั้งยังจะให้ทำการตลาดพิเศษในรุ่น อินโนเวเตอร์ ทั้งแบบ 4 ล้อ และ 6 ล้อ ที่มีจุดเด่นน้ำหนักตัวรถเบา แต่บรรทุกสินค้าได้มาก และที่สำคัญยังสามารถวิ่งได้ 24 ชั่วโมง โดยไม่มีการจำกัดเวลา เราเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจปีนี้จะโตกว่าที่แล้ว และเราก็มั่นใจว่าฮีโน่มียอดขายรวมมากกว่าปีที่แล้ว และที่สำคัญ ฮีโน่ก็ยังมีอุปกรณ์ GPS เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถบรรทุกฮีโน่ รวมถึงรถบรรทุก 6 ล้อด้วย แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่อยู่ในข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมก็ตาม แต่เราพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า”
เบนซ์ เปิดสนญ.ในไทย/ตั้งเป้าปีนี้ 80 คัน
ฟากฝั่งบริษัท เอเชีย ทรัค จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกยี่อห้อ “เมอเซเดส-เบนซ์” จากประเทศเยอรมนี โดยแหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยว่าเอเชียทรัค ได้เปิดสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งจะใช้เป็นทั้งโชว์รูมเพื่อแสดงรถหัวลากรุ่น Actros และรถบัสอีก 2 รุ่น อีกทั้งเป็นศูนย์บริการที่พร้อมให้บริการทั้งรถใหม่และรถเก่า รวมถึงโกดังสต็อกอะไหล่ที่มีอะไหล่ทุกประเภทอยู่ในโกดัง เพื่อให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“ภายหลังบริษัทฯได้เป็นตัวแทนจำหน่ายจากเมอเซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เมื่อกลางปีของปีที่แล้ว โดยสามารถมียอดขายเป็นที่พอใจทั้งที่เป็นรถหัวลากและรถโดยสาร ส่วนปีนี้จะเน้นที่รถหัวลากเป็นหลัก ซึ่งต้องทำให้ได้มากถึง 80 คัน ส่วนรถบัสจะเน้นที่กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ พร้อมทั้งยังหวังว่าการเปิดสำนักงานใหญ่เต็มตัวนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้าชาวไทยว่าบริษัทฯตั้งใจเกินร้อยที่ทำตลาดในเมืองไทย”
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระดับสูง ระบุเพิ่มเติมว่าเอเชียทรัคฯ เริ่มทำตลาดมาได้ไม่นานนัก จึงยังทำตลาดได้ไม่มากนัก อีกทั้งทางบริษัทแม่ยังไม่ได้รุกตลาดอย่างเต็มตัว ซึ่งต้องใช้เงินทุนสูงมาก ประกอบกับรถยุโรปที่ทำตลาดในเมืองไทยรายหลักๆล้วนมีโรงงานประกอบในเมืองไทย ทำให้ขายได้ในราคาถูกกกว่าเบนซ์ สวนทางกับบริษัทแม่ต้องนำเข้ารถใหญ่เบนซ์จากประเทศเยอรมนี ต้องเสียภาษีนำเข้า 40% จึงจำเป็นต้องลดราคาขายลงมาเป็นอย่างมาก เพื่อจะได้แข่งขันกับค่ายยุโรปอื่นๆได้ คาดอีกไม่นานเมื่อทิศทางตลาดดีขึ้น ทางบริษัทแม่จะตัดสินใจทำตลาดในเมืองไทยแบบครบวงจรแน่นอน
ไอวีโก้ เชื่อตลาดปี 60 โตต่อเนื่อง /ตั้งเป้า 500 คัน
ขณะที่ค่ายรถบรรทุกสายพันธุ์ยุโรปอีกค่ายอย่าง “ไอวีโก้”จากประเทศอิตาลี โดย เอส.เอส.เค. กรุ๊ป ฯ ผู้แทนจำหน่ายรถไอวีโก้ “คุณกวาง-วาสนา เสือกลิ่นศักดิ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่าปีที่แล้วเราค่าย 150 คันจากเป้าที่วางไว้ 200 คัน ส่วนปีนี้เราเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจะโตเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากการลงทุนก่อสร้างผ่านเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ซึ่งนั่นจะส่งผลดีต่อตลาดรถใหญ่เมืองด้วย โดยเราตั้งเป้าไว้ที่ 500 คัน
“บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำรถรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาด เพราะจากการศึกษาและสำรวจตลาดขนส่งมาแล้วพบว่า รถรุ่นที่จะนำเข้านี้ยังเข้ามาช่วยอุดช่องว่างในตลาดขนส่งเมืองไทยได้ ส่วนดีลเลอร์มีมากถึง 13 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งดีลเลอร์แต่ละรายก็สามารถที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ที่ดูแลได้เป็นอย่างดี และมีความพร้อมที่จะสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้าด้านการบริการหลังการขายได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ”
เมื่อสัญญาณเชิงบวกบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจไทยปีไก่จะดูมีค่าสง่าราศี ผนวกกับภาครัฐโหมกระหน่ำลงทุนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจสุดลิ่ม ภาคเอกชนคงไม่นอนหลับทับโอกาสทองที่จะเกิดขึ้นแน่นอน ปีนี้คงได้เห็นการพลิกตำราสู้ในทุกกระบวนท่าของค่ายรถใหญ่หลากหลายสายพันธุ์สนั่นสมรภูมิรถใหญ่เมืองไทยเป็นแน่!!
