ถือเป็นความยิ่งใหญ่แห่งวงการขนส่งไทยที่อยู่คู่กับไลฟ์สไตล์คนไทยมาถึง 138 ปี “ไปรษณีย์ไทย” เพื่อนแท้ร่วมทางการสื่อสารและการขนส่ง ที่ทุกบ้านทุกครัวเรือนต้องคุ้นชินกับภาพของการนำจ่ายสิ่งของ ทั้งในรูปแบบของเอกสารสำคัญ จดหมาย พัสดุ ฯลฯ ไม่เว้นแม้แต่บนท้องถนน ตามตรอกซอกซอย ที่มักจะได้เห็นภาพรถขนส่งในการส่งสิ่งของให้ถึงมือคนไทย ซึ่งเรียกได้ว่าไกลแค่ไหนก็ไปถึงทุกพื้นที่
ล่าสุดไปรษณีย์ไทยขอเปิดเรื่องราวรถขนส่งไปรษณีย์ไทยที่โลดแล่นให้เห็นบ่อย ๆ บนท้องถนนอีกครั้ง ผ่านคอลเลกชันสิ่งสะสมโมเดลรถเหล็กภายใต้แบรนด์ “Majorette : มาร์จอร์เร็ตต์” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ บริษัท ซิมบ้า ทอยส์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตของเล่นและสิ่งสะสมยอดนิยมสัญชาติยุโรป เพื่อเป็นไอเทมที่ตอบโจทย์ความนิยมในการสรรหาสิ่งของสะสมของคนไทย และเป็นการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ๆ ที่ชื่นชอบ ความแปลกใหม่และความสนุกสนานของผลิตภัณฑ์และบริการในหลากหลายประเภท
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เล่าถึงการพัฒนาสิ่งของสะสมคอลเลกชันนี้ว่า ประชาชนที่รู้จักหรือใช้บริการไปรษณีย์ไทย คงจะได้เห็นการออกคอลเลกชันสิ่งของสะสมต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแสตมป์ ตู้ไปรษณีย์ บุรุษไปรษณีย์ เป็นต้น ซึ่งครั้งล่าสุดนี้ถือเป็น มิติใหม่และเป็นครั้งแรกของการนำสัญลักษณ์ด้านการขนส่งมาร่วมสร้างความสัมพันธ์ และสร้างความทรงจำร่วมกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มผู้ใช้บริการได้อย่างน่าประทับใจ โดยประกอบด้วยรถขนส่งไปรษณีย์ 3 รูปแบบ ได้แก่ รถขนส่งไปรษณีย์ รถตู้ และรถกระบะตู้ทึบ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นสีสันความสนุกสนาน แต่ยังสะท้อนให้เห็น ถึงศักยภาพของไปรษณีย์ไทยที่พร้อมรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการในทุกรูปแบบ
รายละเอียดทางเทคนิคที่ถ่ายทอดได้สมจริง
เนื่องจากโมเดลรถเหล็กไปรษณีย์ไทยนี้ ได้รับความร่วมมือกับผู้นำการผลิตโมเดลรถเหล็กย่อส่วน ในระดับสากลอย่าง Majorette ในการหยิบมาถ่ายทอด ทำให้รายละเอียดของรถเหล็กมีความสมจริงในทุกจุด มีการใช้สีที่โดดเด่นอย่างสีแดง-ขาว คลุมทั้งตัวรถที่เป็นตู้ทึบหลังคาสูง มีโลโก้ไปรษณีย์ไทยและตัวอักษร ‘ขนส่งไปรษณีย์’ บริเวณด้านหน้า และมีไฟหน้าใสสองข้างสีดำ ตรงประตูด้านข้างมีโลโก้ไปรษณีย์ไทย มีอัตราส่วน 1:69 มาพร้อมล้อพลาสติกสีโครเมียมที่หมุนได้อย่างลื่นไหล
ในส่วนโมเดลรถขนส่งไปรษณีย์ขนาดใหญ่ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยรายละเอียดหน้ารถ ที่โครงหน้ารถผลิตด้วยเหล็กและมาพร้อมโลโก้ MAN พิมพ์สีชัดเจนเสมือนจริง ถัดมาประตูด้านคนขับ มีโลโก้ไปรษณีย์ไทย และใต้ท้องรถมีการปั๊มนูนโลโก้ MAN มีอัตราส่วน 1:87 พร้อมลูกเล่นของล้อหมุนได้ จำนวน 6 ล้อ ประกอบด้วย ล้อหน้า 2 ล้อ และล้อหลัง 4 ล้อ อีกทั้งในส่วนตู้พ่วงด้านหลังก็มีการเพิ่มความพิเศษให้สามารถเปิดท้ายและใส่ของได้ รวมถึงมีตัวพ่วงด้านท้ายสามารถพ่วงโมเดลรถคันอื่นๆ ต่อได้
ส่วนอีกหนึ่งรูปแบบคือ รถกระบะตู้ทึบ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาร่วมกับบริษัท ซิมบ้า ทอยส์ จำกัด โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์และนำออกมาวางจำหน่ายในช่วงปี 2565 ซึ่งรถรูปแบบนี้จะยังคงไว้ ซึ่งความสมจริง และอัตลักษณ์ของรถขนส่งไปรษณีย์ไทยเช่นเดิม
รถขนส่งไปรษณีย์ไทย สัญลักษณ์แห่งความอุ่นใจที่ไปถึงทุกพื้นที่
ก่อนหน้านี้ที่จะมีการพัฒนาโมเดลรถเหล็กมาร์จอร์เร็ตต์ ไปรษณีย์ไทยได้มีการสำรวจถึงความรู้สึกผู้ที่ใช้บริการถึงรถสีแดงขาวที่โลดแล่นบนถนน ซึ่งก็ได้ทราบว่า รถที่ทุกคนคุ้นชินตาเป็นสัญลักษณ์แทนความหลากหลายในแง่ของความรู้สึก ทั้งความดีใจและลุ้นว่ารถคันนั้นจะเอาอะไรมาส่งเราที่บ้าน บ่งบอกถึงความอุ่นใจและมั่นใจได้ว่าไม่ว่าพื้นที่จะห่างไกลหรือทุรกันดารสักแค่ไหนรถขนส่งไปรษณีย์ไทยก็ยังไปถึง นอกจากนี้ ยังเป็นสัญลักษณ์ของการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในยุคค้าขายออนไลน์ที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถฝากส่งสิ่งของไปยังลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ช่วยขับเคลื่อนสังคม ซึ่งทุกวิกฤตเราจะเห็นภาพรถไปรษณีย์ส่งต่อความช่วยเหลือทุกพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของความไม่หยุดนิ่ง เพราะไม่ว่าจะตอนเช้าตรู่ กลางวัน หรือตอนค่ำ รถขนส่งไปรษณีย์ไทยก็ยังวิ่งนำจ่ายความสุขถึงทุกผู้คนอยู่เสมอ
ลิมิเต็ดอิดิชั่น 50,000 คันทั่วไทย
ไปรษณีย์ไทยและ บริษัท ซิมบา ทอยส์ ได้ผลิตรถเหล็กมาร์จอร์เร็ตต์ คอลเลกชันรถขนส่งไปรษณีย์ไทยเพียงแค่ 50,000 คันเท่านั้น ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและสั่งซื้อโมเดลรถเหล็กไปรษณีย์ไทย แบบแพ็กเกจ Limited ที่มาพร้อมกระเป๋าผ้า POST ได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ www.thailandpostmart.co.th หรือหาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 (เซเว่น อีเลฟเว่น) สำหรับความน่าสนใจของคอลเลกชันรถเหล็กนี้ นอกจากจะอยู่ที่ความเหมือนในทุกรายละเอียดแล้ว ยังมีเสน่ห์ที่ความน่ารัก ความเท่ห์ และสตอรี่ที่สามารถ เติมเต็มจินตนาการของผู้สะสมที่จะนำไปใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์แทนความทรงจำ และการระลึกถึงเรื่องราวที่ชื่นชอบและประทับใจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย