ปัดฝุ่น “สายการเดินเรือแห่งชาติ”… มหกรรมปาหี่หรือแผนละเลงภาษี!

0
1042

อดีตผู้บริหารสายการเดินเรือแห่งชาติกังขา กระทรวงคมนาคม-รัฐบาลละเมอตื่น จุดพลุฟื้นสายการเดินเรือแห่งชาติ บทด. ทั้งที่สุมหัวกันปู้ยี่ปู้ยำบริษัทไทยเดินเรือทะเลจนสูญสลาย แนะ ”บิ๊กตู่” เรียกแฟ้มแผนจัดตั้งกองเรือพาณิชย์แห่งชาติกลับมาดูก่อนเสียค่าโง่ เพราะของเก่ายังปิดบัญชีไม่ลง เหตุ สตง. ไม่รับรองงบดุลก่อนยุบเลิกกิจการ

กำลังเป็นประเด็นสุดฮอต เป็น Talk of the Town

กับเรื่องที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ออกมาตีปี๊บไปวันวาน 11 มิ.ย. ว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง “สายการเดินเรือแห่งชาติ” ขึ้นมาใหม่ เนื่องจากนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ต้องการส่งเสริมการพัฒนาการขนส่งสินค้าทางน้ำ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งโลจิสติกส์ และเพื่อการนำเข้าและส่งออก

ประกอบกับรัฐบาลได้มีนโยบายในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC อีอีซี) ดังนั้นหากมีการจัดตั้ง “สายการเดินเรือแห่งชาติ” ซึ่งเป็นของคนไทยจะช่วยสนับสนุนการดำเนินการในโครงการต่างๆ ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ขณะเดียวกันจะทำให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า นำเข้า และส่งออก ลดการพึ่งพาสายการเดินเรือต่างชาติ

พลันที่กระทรวงคมนาคมตีปี๊บนโยบายดังกล่าว หลายภาคส่วนต่างออกมาขานรับกันหน้าสลอน ด้วยความคาดหวังจะเห็นประเทศไทยจะมีสายการเดินเรือแห่งชาติเป็นของตนเอง ลดการพึ่งพาและยืมจมูกชาวบ้านเขาหายใจ กองเรือเดินทะเลแห่งชาติของไทยจะเป็นหลักประกันการขนส่งทางทะเล เป็นเครื่องมือสำคัญในการลดต้นทุนการนำเข้า-ส่งออก และแป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามทารถในการแข่งขันของประเทศ

แต่ก่อนจะปัดฝุ่นจัดตั้ง “สายการเดินเรือแห่งชาติ” อะไรนั้น ท่านนายกฯ และ รมต.ศักดิ์สยาม ลองให้เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมกิจการพาณิชย์นาวี (สพว.) และปลัดกระทรวงคมนาคม หอบแฟ้มแผนการจัดตั้ง “กองเรือพาณิชย์แห่งชาติ” ของบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด (บทด.) ที่กระทรวงคมนาคมนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2548 ตามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พ.ย.2548 มาคลี่ดูก่อนจะดีกว่าไหม

จะได้รู้ตื้นลึกหนาบางว่า รัฐบาล ประเทศไทยสมควรจะ “เสียค่าโง่” ให้กับการปัดฝุ่นจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติหรือไม่?

มหกรรมปาหี่..จัดตั้ง “สายการเดินเรือแห่งชาติ”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า นโยบายการพัฒนากองเรือเดินทะเลของไทย หรือกองเรือพาณิชยนาวีให้เติบใหญ่เพื่อเป็นหลักประกันการขนส่งทางทะเล ลดต้นทุนการนำเข้า-ส่งออก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศนั้น เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายเพรียกหากันมานานแล้ว

เพราะการที่เราประกาศจะเป็น HUB เป็นประตูสู่อาเซียน จะเป็นพี่เบิ้ม AEC เป็นศูนย์กลางการขนส่ง การค้า การลงทุน  แต่กลับปราศจากกองเดินเรือเป็นของตนเองต้องไป “ยืมจมูกชาวบ้านเขาหายใจ” นั้น สภาพเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายต่างรู้กันอยู่เต็มอก บทที่ประเทศกำลังจะพลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้ก็เผชิญปัญหาค่าระวางเรือ ถูกบริษัทเดินเรือต่างชาติที่เข้ามาฝังรกรากหากินอยู่ในน่านน้ำไทยรวมหัวกันขึ้นค่าระวาง จนทำเอาผู้ส่งออกนำเข้าไทยสำลักกันมาโดยตลอด

เมื่อรัฐบาลชุดใดเข้ามาปลุกนโยบายจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ หรือพัฒนากองเรือพาณิชย์นาวีไทยให้เข้มแข็ง ถนนทุกส่ายจึงต่างตีปี๊บขานรับกันเป็นพรวน

แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ที่ผ่านมานโยบายดังกล่าวไม่เพียงขาดความต่อเนื่อง ทุกรัฐบาลต่างก็มองข้ามและมองไม่เห็นความสำคัญของการพัฒนาส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีไทยแม้แต่น้อย แม้แต่รัฐบาล คสช. ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  ที่บริหารประเทศต่อเนื่องมากว่า 7 ปี แล้วก็ยังไม่มีความเข้าอกเข้าใจ และไม่เคยให้ความสำคัญกับนโยบายด้านนี้มาโดยตลอด ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาน้ัน แทบจะกล่าวได้ว่านายกฯ แทบจะไม่เคยเรียกประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการพาณิชย์นาวีแม้แต่น้อย

แล้วจะมาละเมอตื่นอะไรกันในวันนี้     

ที่สำคัญท่าน รมว.คมนาคม และ “นายกฯ บิ๊กตู่” รู้หรือไม่ว่า กระทรวงคมนาคมเคยมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ชื่อ บริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด หรือ บทด. เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาสายการเดินเรือแห่งชาติ เพื่อตอบสนองนโยบายที่รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมกำลังตีปี๊บอยู่ในเวลานี้มาก่อน

วันนี้หน่วยงาน บทด. ที่ว่านี้หายไปไหน? พวกท่านไม่สงสัยกันบ้างเลยหรือ?

ก่อนที่กระทรวงคมนาคม และรัฐบาลจะปันฝุ่นนโยบายจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติขึ้นมาใหม่นั้น ช่วยลงไปตรวจสอบกันทีว่า แล้วนโยบายการจัดตั้ง “กองเรือพาณิชย์แห่งชาติ” ตามแผนแปรรูปกิจการ บทด. ที่ในอดีตใช้ชื่อว่า “แผนร่วมลงทุน” กับบริษัทเอกชนในสมาคมเจ้าของเรือไทย จำนวน 23 บริษัท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง ร่วมกันดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2548 นั้นหายไปไหน? คืบหน้ากันไปอย่างไรแล้ว?

ท่าน รมต.คลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีตเลขาธิการ สศช. พอจะนึกออกไหม เพราะทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และ สศช. ต่างมีส่วนร่วมในการพิจารณาแผนการร่วมลงทุนจัดตั้งกองเดินเรือพาณิชย์แห่งชาติที่ว่านี้ อันเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด (บทด.) กับบริษัทเอกชนในสมาคมเจ้าของเรือไทย ในสัดส่วน 30:70

วันนี้คืบหน้าอย่างไรบ้างแล้ว ท่านไม่คิดจะขอรายงานจาก สคร. และกระทรวงคมนาคม มาดูบ้างหรือ? เพราะในแผนที่ได้ร่วมกันนำเสนอขอความเห็นชอบจาก ครม.นั้น จะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ ที่ชื่อ “บริษัท บทด จำกัด” ขึ้น โดยมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 666 ล้านบาท โดยบริษัทไทยเดินเรือทะเลลงทุน 200 ล้านบาท ขณะที่เอกชน 23 บริษัทจะร่วมลงทุน 466 ล้านบาท โดยในส่วนของเงินลงทุนของรัฐนั้น ส่วนหนึ่งจะมาจากกำไรของบริษัทที่มีอยู่ราว 30 ล้านบาท ที่เหลือมาจากการปิดบัญชีบริษัทไทยเดินเรือทะเลเดิม เมื่อสะสางปิดบัญชีและยุบเลิกกิจการไปแล้ว ก็ให้กระทรวงการคลังนำเงินที่ได้จากการสะสางปิดบัญชีบริษัทไปร่วมลงขันในบริษัทร่วมทุน บทด ที่ว่านี้

ตามแผนทางธุรกิจของ บริษัท บทด จำกัด นั้น ได้มีการจัดทำแผนธุรกิจ 5 ปี โดยในปี 2550-2551 จะต้องมีการจัดซื้อเรือจำนวน 4 ลำประกอบด้วย เรือขนสินค้าเทกองขนาด 8,000 ตัน 1 ลำ และเรือขนน้ำมันขนาด 7,000 ตัน อีก 1 ลำ จัดหาเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 1,000 ทีอียู และเรือขนส่งน้ำมันขนาด 40,000-80,000 ตัน อย่างละ 1 ลำ และคาดว่าภายในระยะ 5 ปี บริษัท บทด จำกัด จะมีกองเรือขนาดใหญ่มากกว่า 20 ลำ

วันนี้ความคืบหน้าของแผนจัดตั้งกองเรือพาณิชย์แห่งชาติของกระทรวงคมนาคม และ บทด. คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?

สถานะของสายการเดินเรือแห่งชาติที่ได้แปรรูปกิจการไปเป็นกองเรือพาณิชย์แห่งชาตินั้นเป็นอย่างไร?

บริษัท บทด.จำกัด ที่ว่าสยายปีกขยายกิจการเติบใหญ่กันไปถึงไหนแล้ว ?

พนักงาน บทด.ที่เคยมีอยู่ 40-50 คน ก่อนวันที่ ครม.อนุมัติแผนร่วมลงทุนวันนี้เติบใหญ่ไปเป็น 100 คนหรือยัง ?

หรือว่าตกงานเรียบวุธกันไปหมดแล้ว!

ขอโทษ! อย่าว่าแต่จะไม่มีการจัดซื้อ หรือขยายกองเรือเพิ่มสักลำเลย เรือที่บริษัทแม่ บทด.เคยให้บริการอยู่จำนวน 3 ลำก่อนการยุบเลิกกิจการไปนั้น วันนี้นอกจากจะไม่หลงเหลืออยู่สักลำแล้ว ตัวบริษัทแม่ บทด. ที่กระทรวงการคลังและคมนาคมตั้งแท่นให้ดำเนินการสางบัญชีบริษัทเพื่อยุบเลิกกิจการไป ก็ยังคาราคาซังไม่มีการดำเนินการใด

ตลอดระยะเวลา 14-15 ปีที่ผ่านมา กระทรวงการคลังเองกลับไม่เคยมีการจัดทำรายงานสถานะการดำเนินงานของบริษัท บทดจำกัด ให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ ทั้งที่คลังยังคงถือหุ้นอยู่ในบริษัทร่วมทุน บทด ที่ว่านี้ร่วม 30% ทุกอย่างล้วนหายเข้า “กลีบเมฆ” โดยไม่มีใครตามไปตรวจสอบเลยว่า จู่ๆ รัฐวิสาหกิจ บทด. ในสังกัดกระทรวงคมนาคมหายไปไหน?

เหนือสิ่งอื่นใด ท่านนายกฯ และ รมต.คมนาคม รวมทั้งท่าน รมต.คลัง รู้หรือไม่ว่า หลังแผนแปรรูปกิจการ บทด. ที่ในวันนั้นใช้ชื่อว่า “แผนร่วมลงทุน” กับบริษัทเอกชนผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ไปแล้ว ในส่วนของการจัดทำแผนยุบเลิกบริษัทไทยเดินเรือทะเล หรือ บทด. เดิม ที่ได้โอนอำนาจและภารกิจทั้งหลายท้ังปวงไปยัง บริษัท บทด จำกัด แล้วนั้น วันนี้ก็ยังไปไม่มีความคืบหน้าไปถึงไหน? ด้วยเส้นทางการสางชำระบัญชีในช่วง 3 ปีก่อนปิดบริษัท คือ ในปี 2549-2551 ที่ต้องส่งให้สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พิจารณาอนุมัตินั้น จนถึงวันนี้ สตง. ก็ยังไม่มีการรับรองผลการดำเนินงานของบริษัท จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการชำระบัญชีเพื่อยุบเลิกกิจการได้

แปลให้ง่าย สตง. ไม่ให้การรับรองงบดุลด้วยเห็นว่า การดำเนินงานของบริษัทไม่เป็นไปตามกรอบและมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติไว้ จึงทำให้แผนการสลายบริษัทแม่ บทด.คาราคาซังอยู่จนกระทั่งวันนี้ และยังผลให้เส้นทางการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ระหว่าง บทด.-กับบริษัทเอกชนในสมาคมเจ้าของเรือไทย เพื่อจัดตั้ง “กองเดินเรือพาณิชย์แห่งชาติ” ยังคงถูกเก็บงำอยู่ในแฟ้มกระทนวงคมนาคมกระทั่งวันนี้

ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นข้างต้นนี้ ใครสมควรจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ? ท่าน รมว.คมนาคม ท่าน รมว.คลัง และท่านนายกฯ ในฐานะประธาน คนร. ไม่คิดจะตรวจสอบบ้างเลยหรือ? ไม่ลองเรียกข้อมูลจากสำนักงานกิจการพาณิชยนาวีและปลัดกระทรวงคมนาคมมาไล่เบี้ยกันบ้างหรือ ?

ผู้ที่มีส่วนในการปู้ยี่ปู้ยำจนนำไปสู่การยุบเลิกกิจการบริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม และทำให้รัฐต้องสูญเสียเม็ดเงินภาษีที่นำไปลงทุนในบริษัทนี้กว่า 239 ล้าน รวมทั้งกำไรของบริษัทที่มีอยู่กว่า 30 ล้านบาท ก่อนการยุบเลิกกิจการนั้น เม็ดเงินภาษีของประเทศที่สูญสบายไปเหล่านี้ ไม่มีหน่วยงานใดคิดจะไล่เบี้ยกันเลยหรือว่าใครอยู่เบื้องหลัง ใครกันที่ต้องรับผิดชอบ???

เหตุใด กระทรวงการคลังจึงปล่อยปละละเลย ไม่มีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของบริษัทว่า เป็นไปตามแผนงานที่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีหรือไม่ อย่างไร ทุกอย่างล้วน “หายเข้ากลีบเมฆ” กันไปหมด…

ก่อนจะปัดฝุ่นแผนจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติอันสวยหรูนั้น ท่านนายกฯ และ รมว.คมนาคม ช่วยหันไปคลี่ดูแฟ้มลับของการจัดตั้งกองเรือพาณิชย์แห่งชาติที่วางอยู่ในห้องท่านก่อนปะไร ก่อนที่ประเทศจะต้องเสีย “ค่าโง่” กันอีกระรอก!!