แท็กซี่ไม่ไหวทนหลัง ครม. มีมติให้เรียกรถบ้านเป็นแท็กซี่ผ่านแอปฯถูกกฎหมายได้ รวมตัวกดดันปิดกระทรวงคมนาคมไม่ให้เข้าออก ด้าน”วีระศักดิ์”รับข้อเสนอแท็กซ๊่ที่คัดค้านไปหารือภายใน ด้านกลุ่มแท็กซี่ อ้างกฎกระทรวงดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนต่อการประกอบอาชีพ-ไม่เป็นธรรมต่อรถแท็กซี่ในระบบเดิม หากจะผลักดันให้นำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน กระทรวงฯ ควรปรับปรุงหรือพัฒนารถแท็กซี่ในระบบเดิมให้ดียิ่งขึ้นก่อน
ที่กระทรวงคมนาคม วันนี้( 2 มิถุนายน 64)ได้มีกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างสาธารณะ (รถแท็กซี่) นำโดยนายวรพล แกมขุนทด และสมาชิกประมาณ 100 คน เดินทางมาชุมนุมที่หน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการออกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …. เนื่องจากเห็นว่ากฎกระทรวงดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนต่อการประกอบอาชีพ ไม่เป็นธรรมต่อรถแท็กซี่ในระบบเดิม
โดยมีนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) รับข้อเรียกร้องจากกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างสาธารณะ (รถแท็กซี่) ดังกล่าว ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม โดยกลุ่มแท็กซี่ดังกล่าวได้กดดันด้วยการนำรถแท็กซ๊่มาปิดประตูเข้า ออกกระทรวงตั้งแต่ 15.00 น.-17.30 น. ถึงสลายตัว
ด้่านนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม กล่าวว่า ทางกระทรวงคมนาคมรับฟังความเห็นของกลุ่มแท็กซี่ที่มาคัดค้าน ซึ่งได้ทำความเข้าไปว่าขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังดำเนินการอะไร และจะทำอะไรต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้ละเลยกลุ่มแท็กซี่ที่ให้บริการในระบบอยู่เดิม และยังได้ชี้แจงถึงความคืบหน้าในการยกร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนรวมถึงผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ ก่อนเสนอร่างกฎหมายต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากผ่านขั้นตอนการพิจารณาข้อกฎหมายทั้งหมดแล้ว จะพิจารณาลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับต่อไป
โดยนายวรพล แกมขุนทด ผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างสาธารณะ (รถแท็กซี่) กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเดินทางมาที่กระทรวงคมนาคมเพื่อมายื่นหนังสือคัดค้านการออกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …. เนื่องจากเห็นว่าจากที่ ครม.มีมติอนุมัติให้ ผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถมาให้บริการรถสาธารณะโดยเรียกผ่านแอปพลิเคชั่นแบบถูกกฎหมายนั้น กฎกระทรวงดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนต่อการประกอบอาชีพ และไม่เป็นธรรมต่อรถแท็กซี่ในระบบเดิม และหากจะผลักดันให้นำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน กระทรวงฯ ควรปรับปรุงหรือพัฒนารถแท็กซี่ในระบบเดิมให้ดียิ่งขึ้นจะเหมาะสมกว่า และควรเป็นผู้พัฒนาระบบเนื่องจากจะสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ใช้บริการได้มากกว่า
