นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ ครม.ได้มีมติอนุมัติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ….ไปแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปซึ่งได้กำหนดกรอบระยะเวลาให้กรมการขนส่งทางบก(ขบ.)เร่งดำเนินการออกประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้องทันทีภายหลังกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับภายในเดือนกรกฎาคม 64 ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่สนใจประกอบกิจการสามารถเข้ามาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในประเทศไทย ขณะเดียวกัน คนที่มีรถยนต์ส่วนบุคคลที่จะมาให้บริการโดยสารสาธารณะจะต้องไปสอบใบขับขี่สาธารณะก่อน ทั้งนี้ข้อดีของการให้บริการและจดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศไทย จะทำให้ผู้ประกอบกิจการในประเทศ เสียภาษีให้กับกรมสรรพากรเป็นรายได้ของรัฐ ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมการลงทุนของเอกชนด้วย
ทั้งนี้ การนำระบบเรียกรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชั่นไม่ใช่ระบบใหม่ในหลายๆประเทศ เช่น สหรัฐ ก็มีอูเบอร์ ,ฮ่องกง ก็มีแกรป บริการ ส่วนอินโดนีเซียก็มี Gojekให้บริการ ซึ่งข้อดีของการเรียกรถผ่านแอปฯบริการนั้น จะทำให้ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบผู้ขับขี่ เมื่อใช้บริการได้ เรื่องนี้ทุกฝ่ายต้องเข้าใจโลกสมัยใหม่ที่การบริการจะแข่งด้าน สะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว ราคาที่เป็นธรรม สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์องค์รวม สิ่งใดที่ทำไปแล้วหากมีปัญหาแก้ไขได้ โดยรวมทุกส่วน ส่วนรถแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการทั่วไปก็สามารถมาเข้าระบบเรียกผ่านแอปฯได้
ขณะเดียวกัน ข้อดีที่สำคัญคือ การรวมตัวจัดตั้งเป็นนิติบุคคลมาให้บริการ จะทำให้รายได้จากการเก็บค่าบริการแอปพลิเคชั่นก็จะเข้ารัฐ อย่างเต็มที่ และที่ผ่านมาก่อนจะออกมาเป็นนโยบายและทำตามขั้นตอนนี้นั้นทางกระทรวงคมนาคมได้มีการรับความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน ยอมรับว่าใช้เวลาในการผลักดันกว่า 1ปี 10 เดือน ถึงจะสำเร็จ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมองจากเป้าหมายที่ประชาชนจะได้ประโยชน์จากการบริการ และ ราคาที่เป็นธรรมเป็นหลัก
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าหากเปิดให้เรียกรถผ่านแอปฯจะกระทบต่อผุ้ให้บริการในปัจจุบันหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ถือว่า เป็นส่วนเสริม เนื่องจากกระทรวงคมนาคม และ ขบ.เปิดกว้างที่จะให้ผู้ขับขี่แท็กซี่ปัจจุบันสามารถเข้ามาลงทะเบียนอยู่ในระบบกับแอปพลิเคชั่นได้เลย และมาขับรถรับจ้างได้เลย ขณะเดียวกันสามารถยังเปิดโอกาสให้ แท็กซี่สามารถโฆษณาบนพื้นที่รอบๆรถแท็กซี่ได้
