หลังสร้างปรากฎการณ์แจ้งเกิดในตลาดรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างฮือฮาพร้อมลุยระดมทุนสำเร็จสู่ Series A มูลค่าราว 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 100 ล้านบาทจาก 2 นักลงทุนรายใหญ่ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ หรือ NDR เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยางล้อรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทย และนักลงทุนอิสระ Angle investor เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นในศักยภาพของอีทรานทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทรนด์ EV ที่กำลังเติบโตทั่วโลก
ว่ากันว่าการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยให้อีทรานสามารถลุยการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมที่กำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ!
ล่าสุด อีทราน(ETRAN) กางแผนเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดจำนวน 2 รุ่น คือ KRAF สำหรับกลุ่มผู้ใช้รถมอเตอร์ไซด์ทั่วไป และ MYRA จับกลุ่มไรเดอร์เดลิเวอรี่ ลุยขยายสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือ ETRAN Power Station จำนวน 100 สถานีในเขตกทม.ภายใน 3 ปีรองรับผู้ใช้งานโดยเฉพาะกลุ่มไรเดอร์ วางเป้ายอดขาย 50% ของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารวมภายในปี 2568 ด้วยยอดขายกว่า 100,000 คัน
Drive The Better World ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก
นายสรณัญช์ ชูฉัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) เปิดเผยว่า รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ETRAN ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด Drive The Better World ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1.Clean มุ่งมั่นพัฒนาอีโคซิสเต็มส์ของรถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ
2.Efficient พัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่มีประสิทธิภาพ สมรรถนะโดดเด่น ใช้งานได้ทุกรูปแบบ
3.Equitable ส่งเสริมความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ โดยทำให้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า พลังงานสะอาดของอีทราน เข้าถึงได้ง่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ ให้ผู้ใช้งาน
โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา ETRAN PROM รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ออกแบบเพื่อการขนส่ง สาธารณะโดยเฉพาะคันแรกของโลก ได้รับรางวัล “reddot winner 2020 innovative product” จาก Red Dot Design Award ในประเภทผลิตภัณฑ์นวัตกรรมยอดเยี่ยม และได้การ สนับสนุนงบประมาณวิจัยจากสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทย อันนำไปสู่การลดต้นทุน และสร้างมาตรฐานของรถไฟฟ้าสัญชาติไทยให้สามารถแข่งขันในประเทศ ได้เป็นอย่างดี
ส่วน ETRAN KRAF ที่มีการเปิดตัวในรุ่น Limited Edition ไปเมื่อปี 2562 มีการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้รักการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ในปัจจุบัน อีทราน กำลังพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยบนท้องถนนและอรรถรสในการขับขี่เพิ่มเติม เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานและสังคม รวมถึงการพัฒนา การผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ตั้งเป้าส่งมอบรถรุ่นนี้ปลายปี 2564
ปี 64 งัด ETRAN MYRA เจาะกลุ่มขนส่ง
ส่วนในปีนี้ อีทราน จะส่งรุ่นใหม่บุกตลาดเน้นกลุ่มขนส่งในรุ่น ETRAN MYRA รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่ออกแบบเพื่อการขนส่งโดยเฉพาะ ระยะทางต่อการชาร์จ 180 กิโลเมตร ทำความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนรองรับอุปกรณ์พิเศษ เช่น กล่องขนส่ง ตู้เย็น อุปกรณ์ติดตาม และระบบบริหารจัดการเครือข่ายขนส่งขนาดใหญ่ มาพร้อมระบบ เปลี่ยนแบตเตอรี่ใน ETRAN Power Station ที่จะติดตั้งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล 100 จุด มองเป้าหมายเติบโต ไปกับภาคการขนส่ง Last mile delivery กว่า 10,000 คัน ภายในปี 2567 โดยตามแผนการดำเนินธุรกิจ อีทราน ในปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ อยู่ที่ประมาณ 400-500 ล้านบาท และในปี 2566 คาดว่ารายได้จะเติบโตก้าวกระโดดแตะ 1,000 ล้านบาทได้
เติบโตก้าวกระโดดด้วย 3 ปัจจัยหลัก
ด้าน นายอาร์ชวัส เจริญศิลป์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังมีความพยายามพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) กับภาคนโยบาย (Policy) เพื่อผลักดัน EV ในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ตลาด EV ในประเทศมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
1.ภาครัฐเดินหน้านโยบายจริงจังผ่าน คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) วางเป้าหมายผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ของภูมิภาคอาเซียน(EV Hub) พร้อมทั้งวาง เป้าหมายสนับสนุนให้มีการใช้รถมอเตอร์ไซค์ EV ในประเทศจำนวน 1,800,000 คัน ภายใน 3 ปี
2.ภาคผู้ผลิต เริ่มมีรถ EV ในแผนการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ เพื่อทำการตลาดในประเทศ มากขึ้น ซึ่งอีทรานเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่พร้อมจะร่วมเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็น EV Hub อย่างเต็มรูปแบบ
3.ภาคผู้บริโภค เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนไปใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้นประกอบกับเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภค มีความมั่นใจต่อศักยภาพของรถ EV และประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้รถ EV ในภาพรวม
นายอาร์ชวัส ย้ำปิดท้ายว่าเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและเตรียมพร้อมรับโอกาสจากแนวโน้มตลาด EV ที่จะเติบโต อีทรานได้วางแผนปรับองค์กร ก้าวจากสตาร์ทอัพสู่องค์กรธุรกิจเต็มรูปแบบ ด้วยการวางแผน พัฒนาองค์กรและสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน เป็นองค์กรที่มีธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการ การเงิน การตลาด การสร้างแบรนด์ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
“โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต ด้วยอีทรานมีเป้าหมาย ที่ใหญ่กว่าเป็นเพียงผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำให้เกิดขบวนการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์สู่การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้ากำลังเปลี่ยนผ่านโลกอุตสาหกรรมยานยนต์โลกอย่างแท้จริง และไม่ใช่เรื่องไกลตัวมนุษย์และคนไทยอีกต่อไป ยังไงก็ต้องมาทนแทนและมีอิทธิอย่างมากต่อการตัดสินใจผู้บริโภคในอนาคตอันใกล้ ใครเปิดตัวก่อนถือว่าได้เปรียบกว่าคู่แข่ง เช่นเดียวกับอีทรานที่สามารถเจาะตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ
ทว่า การจะทะยานเข้าวินก้าวสู่ความสำเร็จระดับครองสัดส่วนตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าถึง 50% ถือว่าเป็นหมายที่ท้าทาย ไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ยากที่จะเป็นไม่ได้ กาลเวลาและอีทรานเท่านั้นจะเป็นผู้ขีดเขียนเอง!