ขนส่งฯขอความร่วมมือสิงห์รถบรรทุกงดวิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่าง 10 – 16 เมษายน 2564 เพื่อให้ถนนทุกเส้นทางคล่องตัว-ปลอดภัยตลอดเทศกาลสงกรานต์ 2564 ชี้อุบัติเหตุจากรถบรรทุกแต่ละครั้งรุนแรงมากกว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถลักษณะอื่น ลั่นหนึ่งในมาตรการป้องกัน-ลดอุบัติเหตุคือลดจำนวนรถบรรทุกวิ่งช่วง 10 – 16 เมษายน 2564 เท่าที่จำเป็น ย้ำการขนส่งสินค้าที่มีความจำเป็นเร่งด่วนสามารถขนส่งได้โดยหลีกเลี่ยงเส้นทาง-ช่วงเวลาที่ประชาชนใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่าการขอความร่วมมือรถบรรทุกหยุดวิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นมาตรการเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว โดยคาดการณ์ว่าจะมีการใช้รถใช้ถนนเพิ่มขึ้น กรมฯจึงประสานขอความร่วมมือ สมาคมขนส่งสินค้า สมาคมรถบรรทุก และผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทาง และรถบรรทุกส่วนบุคคล เพื่อให้งดการว่าจ้างขนส่งสินค้า และงดการใช้รถบรรทุก ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 10 – 16 เมษายน 2564 โดยได้มีการประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย สมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน สมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก สมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก สมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย และบริษัทต่างๆ พร้อมให้ความร่วมมือในถนนทุกเส้นทางสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า เป้าหมายการดำเนินการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 กรมการขนส่งทางบกตั้งเป้าหมายต้องการให้อุบัติเหตุจากรถบรรทุกต้องลดลงหรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด เนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุกับรถบรรทุกแต่ละครั้งมักปรากฏความรุนแรงมากกว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถลักษณะอื่น ซึ่งหนึ่งในมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุดังกล่าว คือ การลดปัจจัยเสี่ยงโดยลดจำนวนรถบรรทุกที่ออกมาวิ่งในช่วง 10 – 16 เมษายน 2564 เท่าที่จำเป็น ส่วนการขนส่งอื่นที่ไม่สำคัญเร่งด่วน ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้รถในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน สามารถขนส่งได้โดยหลีกเลี่ยงเส้นทางและช่วงเวลาที่ประชาชนใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เช่น การขับรถโดยใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพถนน ใช้ช่องทางจราจรซ้ายสุด กรณีต้องใช้เส้นทางที่มีช่วงขึ้นเขาลงเขา ขอให้หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีประชาชนใช้ถนนจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการชะลอตัว และทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ห้ามจอดรถบริเวณไหล่ทาง และตลอดทำการขนส่งต้องตรวจสอบการทำงานของระบบ GPS Tracking ให้สามารถส่งข้อมูลการเดินรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ต้องใช้อุปกรณ์ยึดตรึงตู้คอนเทนเนอร์ (Twist Lock) ตลอดเวลาที่ทำการขนส่ง และปฏิบัติตามข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเดินรถในถนนบางสาย เช่น สายเหนือ ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) ช่วงนครสวรรค์ ถนนรังสิโยทัย (ทางหลวงหมายเลข 117) สายอีสาน ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) สระบุรี ถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2) แก่งคอยถึงสีคิ้ว ถนนกบินทร์บุรี-ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) บุรีรัมย์-อรัญประเทศ (ทางหลวงหมายเลข 348) อย่างเคร่งครัด
ด้านผู้ขับรถต้องพักผ่อนเพียงพอ ปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจของผู้ขับรถต้องเป็นศูนย์ (0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) ไม่เสพสารเสพติดให้โทษหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด มีใบอนุญาตขับรถถูกต้อง หากผู้ประกอบการขนส่งหรือผู้ขับรถละเลยการปฏิบัติตามกฎหมายจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ กรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด