การรถไฟฯแจงวุ่นปมปรับแบบก่อสร้างชานชาลาสูงเป็นต่ำของบางสถานีในโครงการรถไฟทางคู่เฟาแรกหลังถูกพลังโซเชียลถล่มหนัก ย้ำออกแบบชานชาลาภายในสถานีรถไฟทั่วประเทศโดยคำนึงถึงการให้บริการประชาชนในทุกมิติ ลั่นปมร้อนดังกล่าวอยู่ระหว่างพิจารณาผลดี-เสียรอข้อสรุปอย่างรอบคอบก่อนหาข้อยุติในการดำเนินการ
โดยการรถไฟฯต้องคำนึงถึงผลกระทบในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านวิศวกรรมความปลอดภัย งบประมาณดำเนินการ รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ขณะเดียวกันยังได้มีการนำประเด็นดังกล่าว สอบถามขอความเห็นจากสถาบันการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภายนอก ที่ปรึกษาควบคุมงานโครงการก่อสร้าง ผู้บริหารโครงการก่อสร้างของการรถไฟฯ และหน่วยงานภายนอกเพิ่มเติม โดยร่วมกันพิจารณารูปแบบชานชาลาสถานีเพื่อให้ได้รับมุมมองที่กว้างขวาง และเป็นประโยชน์ในทุกๆ ด้าน
ล่าสุด ผู้สังเกตการณ์โครงการก่อสร้างทางคู่จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้มีหนังสือแจ้งมายังการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า มีความกังวลในการปรับปรุงสถานีรถไฟให้เป็นชานชาลาสูงทั้งหมด เนื่องจากจะเป็นภาระงบประมาณจำนวนมาก อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานจริงของผู้โดยสาร ซึ่งการรถไฟฯ ได้รวบรวมผลศึกษาและข้อมูลความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ มาพิจารณาให้เกิดความรอบคอบในทุกมิติ ซึ่งจากการพิจารณาทั้งหมดต้องมีการศึกษาในทุกๆ ด้าน
ทั้งนี้ ในส่วนของการรถไฟฯการสั่งซื้อขบวนรถรุ่นใหม่เพื่อให้เหมาะสมและรองรับการให้บริการกับชานชาลาสูง 1.10 เมตร ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นในช่วงของการเปลี่ยนผ่านในการพัฒนาระบบรางของประเทศ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง จึงเสนอให้ก่อสร้างชานชาลาสูง 1.10 เมตร กับสถานีขนาดใหญ่ และสถานีขนาดกลางที่ขบวนรถโดยสารส่วนใหญ่ลดความเร็วเพื่อเตรียมหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานี
ส่วนสถานีขนาดเล็ก ป้ายหยุดรถ และที่หยุดรถ ซึ่งขบวนรถส่วนใหญ่วิ่งผ่านควรเป็นชานชาลาที่มีความสูง 50 เซนติเมตร ที่ออกแบบให้สามารถปรับความสูงได้ในอนาคต โดยยึดหลักความปลอดภัยในการให้บริการขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ได้มีการนำเสนอประเด็นข้อมูลดังกล่าวให้คณะกรรมการรถไฟฯ รับทราบในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้หากมีการดำเนินการศึกษาแล้วเสร็จ ทั้งนี้จะต้องมีการนำข้อมูลเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อกำหนดนโยบายอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง
การรถไฟฯ ขอขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นต่างๆ ของทุกภาคส่วน และข้อเน้นย้ำว่าการรถไฟฯ จะรวบรวมข้อมูลมาประกอบการพิจารณาโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องในทุกด้านอย่างรอบคอบก่อนหาข้อยุติในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ
Cr.ภาพประกอบจากเพจ สำนักข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลี่นิวส์