มาช้ายังดีกว่า…ไม่มา ขอ I.R.P.เฮียเสือเตี้ย-มาราโดน่าที่แม้จะเป็นอีกซีกโลกข่าวกับแวดวงขนส่ง แต่…ด้วยใจที่คลั่งในเสน่ห์กีฬาฟุตบอลเป็นทุนเดิมเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ขอหล่นวาจาไว้อาลัยเฮียแกพอกรุบกริบล่ะกัน!
แม้เสือเตี้ย“ดีเอโก้ มาราโดน่า”ดาวเตะระดับตำนานในโลกฟุตบอล มหาบุรษลูกหนังผู้นำทีมชาติฟ้าขาวอาเจนติน่าผงาดคว้าแชมปฟุตบอลโลก 1986 เทพเจ้าโลกฟุตบอลผู้เสกสโมสรธรรมดาๆ“นาโปลี”ให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในอิตาลี ถึงวันนี้เขาได้กลายเป็นตำนานที่…ไร้ลมหายไปแล้วหลังเกิดอาการหัวใจวายที่บ้านพักในเมืองติเกร ทางตอนเหนือกรุงบูเอโนสไอเรสด้วยวัย 60 ปีเมื่อ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา
แม้จะเป็นข่าวช็อคโลกลูกหนังจากการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของเขาก็ตาม ทว่า ด้วยผลงานและฝีเท้าระดับเทพอย่างเขา ปลายสะตั๊ดดุจปลายพู่กันตะวัดด้วยลีลาลูกหนังอันพลิ้วไหวบนฟลอร์หญ้าให้แฟนลูกหนังโลกได้ทึ่งถึงฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์ตลอดเวลาที่เขาได้โลดแล่น&โลดโผนในวงการลูกหนัง ทั้งในนามทัพฟ้าขาว-หลายสโมสรที่เคยสังกัดและสร้างชื่อเสียงเอาไว้
มันจะไม่ตายไปตามร่างและวิญญาณของเขา ทว่า มันจะกลายตำนานคู่โลกฟุตบอลที่ไม่มี…วันตาย!
แฟนลูกหนังโลกคงจำกันได้มิรู้ลืมกับมหกรรมฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก‘เสือเตี้ย’ได้ระเบิดฟอร์มเทพร่ายมนต์ลูกหนังเล่นงานคู่แข่งจนปั่นป่วนและยากที่จะต่อกรและรับมือได้ชั้นเชิงฟุตบอลของเขาให้อยู่หมัดได้ ที่สำคัญเกมพบกับทีมชาติอังกฤษในรอบก่อนรองชนะเลิศ เจ้าตัวได้สร้างตำนานให้โลกตะลึงกับการยิงประตูที่โลกไม่มีวันลืมจนทุกวันนี้-อนาคต
วินาทีสุดมหัศจรรย์ที่เขากระโดดขึ้นโหม่งบอลหนีมือปีเตอร์ ชิลตัน นายทวารทัพ“สิงโตคำราม”ที่มีส่วนสูงเหนือกว่าถึง 7 นิ้วเข้าประตูไปท่ามกลางการประท้วงผู้ตัดสินของผู้เล่นทีมชาติอังกฤษว่าเขาใช้มือชกบอลเข้าประตูไป แต่ท่านเปายืนยันให้เป็นประตู ทว่า หลังเกมเขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงประตูปัญหาดังกล่าว พร้อมทิ้งวาทะเด็ดสุดแสบไว้ว่า“ไม่ใช่มือผม มันคือหัตถ์ของพระเจ้า”
ทว่า อีก 4 นาทีต่อมา มาราโดน่า ก็ได้สำแดงให้เห็นถึงอัจฉริยะลูกหนังระดับโลกตัวจริง ด้วยการโซโล่เดี่ยวเลี้ยงบอลจากครึ่งสนามหลบผู้เล่นอังกฤษ 6 คนรวมทั้งนายทวารชิลตันก่อนจะส่งบอลซุกนอนอยู่ก้นตาข่ายอย่างเหลือเชื่อชนิดผู้ชมในสนามและทั่วโลกต้องอ้าปากค้างถึงช็อตมหัศจรรย์นี้ ขนาดผู้บรรยายฟุตบอลโลกในวันนั้นหลงอุทานกลางอากาศว่า“โอ้ววว!มาราโดน่า คุณนี่ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า”
และประตูนี้เอง สหพันธ์ฟุตบอลนานานชาติ (ฟีฟ่า)ได้ยกให้เป็น”ประตูแห่งศตวรรษ”
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาเขาที่โลดแล่นในวงการฟุตบอลไปจนถึงการใช้ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด เสือเตี้ย-มาราโดน่า ตะบันฝีเท้าพลางร่ายมนต์สะกดให้โลกฟุตบอลต้องโค้งคำนับกับเก่งกาจและพรสวรรค์ของเขาเท่าที่โลกนี้เคยมีมา ขณะเดียวกันก็มักจะมีข่าวอื้อฉาวกระฉอกออกมาเขย่าวงการเป็นระลอก
ทว่า มันไม่เคยทำให้มหาบุรษลูกหนังผู้ทรนงและมีบุคลิก-คุณลักษณ์พิเศษนี้นี้รู้สึกหวั่นไหวได้แต่อย่างใด ซ้ำเขายังเคยหล่นวาทะเด็ดไว้ว่า“ตัวเขามีแค่ดำกับขาว ไม่เคยมีสีเทาในชีวิต”
นี่แหล่ะ…คือชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันฉูดฉาดสุดขั้วทั้งในและนอกสนามนามก้องโลก“ดิเอโก้ มาราโดน่า”เป็นทั้งเทวาและซานตานฝังอยู่ในร่างเดียว วงล้อชีวิตชายผู้นี้จึงอุดมไปด้วยสตอรี่มามากมายให้ผู้คนได้เล่าขานไม่จบไม่สิ้น ในมุมขาวเขาเคยสยบโลกฟุตบอลให้ตกตะลึงด้วยเท้าซ้ายมหัศจรรย์ตลอดกาลที่มนุษย์คนหนึ่งในโลกนี้ยากจะทำได้เหมือนกับเขา เป็นไอดอลให้เด็กๆทั่วโลกยึดเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอล
ทว่า ในแง่มุมดำก็เต็มไปด้วยความด่างพร้อยในชีวิตที่เขาเคยซ่าส์และบ้าระห่ำชนิดไม่เคยแคร์สายตามนุษย์หน้าไหน ไม่ว่าจะเป็นพ่อหนุ่มเจ้าสำราญระเริงรมย์อยู่กับ“สุรา-นารี-ยาเสพติด”เป็นอีกมุมมืดชีวิตสุดบ้าบิ่นที่ผู้คนไม่ควรยึดเป็นแบบอย่าง นี่คือวีรกรรมสุดซ่าส์บ้าระห่ำทั้งใน-นอกสนามของเทพเจ้าโลกฟุตบอลที่โลกต้องเรียนรู้ จดจำ และเล่าขานไปตลอดกาล
ข้าน้อย ขอคารวะและร่วมไว้อาลัยที่สุดแห่งตำนานที่ไม่มี…วันตาย!หลับให้สบายครับเฮีย!เสือเตี้ย-ดีเอโก้ มาราโดน่า!
:ปีศาจขนส่ง