หลังสิ้นสุดวันหยุดย๊าวยาวที่ใครต่อใครต่างหนีวิถีคนกรุงมุ่งสู่ภูมิลำเนาเพื่อกลับไปสาว สอย และเสพความสุขในวิถีที่ต่างต่างแล้วกลับเข้าสู่โหมดวิถีชีวิต-การงานปกติ กับชีวิตที่ไม่ยังสิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไปเพื่อปากท้องและลมหายใจที่มีอยู่และเป็นไป
ทว่า สิ่งที่ไม่ขาดไม่ได้ก็คือการเก็บรวบรวมสถิติต่างๆเอาไว้เพื่อนำไปเป็นฐานข้อมูลในการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาด้านการเดินทาง อีกทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน เจ้าภาพหลักในด้านนี้ไม่ใช่ใครกระทรวงคมนาคมนั่นไง ได้สรุปสถานการณ์การเดินทางและอุบัติเหตุช่วงหยุดยาว 4 – 7 ก.ย.63 ที่ผ่านมา
พบว่ามีผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะกว่า 9.8 ล้านคน ต่ำกว่าประมาณการ 10.92% มีปริมาณการจราจรเข้า – ออก กรุงเทพฯ 14.05 ล้านคัน ในขณะที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคมจำนวน 405 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 59 คน บาดเจ็บ 365 คน สาเหตุหลักยังเกิดจากการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ตัวเลขและสถิติที่สนใจก็คือแม้จำนวนผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะจะลดลงกว่า 10 % แต่กลับไปเพิ่มที่ปริมาณการจราจรที่แห่ออกจากกรุงและไหลกลับเข้ากรุงทะลักทะล้นกว่า 14 ล้านคัน สูงกว่าประมาณถึง 38.63% และส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 13,236,716 คัน
ตัวเลขดังกล่าวมันสะท้อนให้เห็นชัดถึงประสิทธิภาพและมาตรฐานการบริหารจัดการระบบขนส่งสาธารณะของไทย ทั้งทางบก ราง เรือ และอากาศหรือไม่ อย่างไร?โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางบก ต้องถามภาครัฐแหล่ะว่าบริหารจัดการระบบขนส่งสาธารณะอย่างไร?มันไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนหรืออย่างไรถึงได้แห่แหนใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่า
เมื่อถึงวันหยุดยาวเมื่อไหร่บนท้อนถนนสายหลักก็ไม่ต่างอะไรกับ“มหกรรมประกวดรถยนต์” หรือ Motor Show on the road อะไรพันธุ์นั้น ไม่แปลกประหลาดหรอกที่ปริมาณการจราจรบนถนนาสายหลักจะติดขัดชนิดวินาศสันตะโร
เป็นกระจกบานใหญ่สะท้อนชัดถึงเศรษฐกิจบ้านเรามันดีประชาชนมีเงินล้นกระเป๋า?หรือเพราะระบบขนส่งสาธารณะของไทยมัน“ห่วยแตก”จริงไม่อิงนิยาย?หรือประชาชนเขาแค่ต้องการซื้อ”ความสะดวกสบาย“เพียวๆไม่ผสมโซดาน้ำแข็ง?
…บางทีก็ปวดกบาล บางทีก็พาลไม่ได้อะไรเลย!
:ปีศาจขนส่ง
