ดูเหมือนช่วงนี้ประเทศไทยเราจะอินเทรนด์&ตื่นเต้นสุดๆกับยานพาหนะไฟฟ้าไร้คนขับ!
ประเดิมด้วยรถหัวลากไฟฟ้าไร้คนขับที่ฮัทชิสัน พอร์ท ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือชั้นนำในประเทศไทย นำเข้าจากไต้หวันเพื่อทดสอบปฏิบัติงานภายในท่าเทียบเรือชุด D ท่าเรือแหลมฉบังเป็นแห่งแรกในไทยและกลุ่มแรกในโลก พุ่งเช้าเป้าหมายลดต้นทุน ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ลดมลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ตามมาติดๆเมื่อ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมากับรถไฟฟ้าไร้คนขับส่งตรงจากจีนแผ่นดินใหญ่ถึงไทยแลนด์เตรียมวิ่งทดสอบรถไฟฟ้าสายสีทอง 3 สถานีจนถึงก.ค.63 และทดสอบการเดินรถเสมือนจริงในเดือน ก.ย.63 ก่อนเปิดให้บริการปลายเดือน ต.ค.63
ขบวนล่าสุดเป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับ รุ่น Airval ที่ทางท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท.นำเข้าจากประเทศออสเตรีย เพื่อวิ่งให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบันเชื่อมกับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิลไลท์ (SAT 1) ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)โดยขบวนแรกจำนวน 2 ตู้จะแตะแผ่นดินไทยในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ส่วนขบวนรถที่เหลืออยู่ระหว่างการประกอบและจะทยอยส่งมอบจนครบทั้งหมด 6 ขบวน 12 ตู้ภายในปลายปีนี้
จากนั้น 11 ก.ค.นี้ ผู้บริหารทอท.จะลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อรับมอบรถไฟฟ้า ก่อนที่จะนำกลับมาเก็บไว้ภายในอุโมงค์ของอาคาร SAT 1 และไม่รอช้าเสียเวลาเปล่าๆปลี้ๆ 12 ก.ค.จะเริ่มนำมาวิ่งทดสอบระบบภายในอุโมงค์ทันที โดยจะวิ่งใต้ดินไป-กลับระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน และอาคาร SAT 1 ระยะทาง 1 กม. ใช้เวลา 2 นาทีต่อเที่ยว
การนำรถไฟฟ้ามาวิ่งทดสอบระหว่างนี้ ถือเป็นการทดสอบค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ของระบบรถไฟฟ้าว่าตรงกับค่าที่กำหนดหรือไม่ โดยจะใช้เวลาในการทดสอบไปจนถึงประมาณปลายปีนี้ เพื่อให้ระบบมีความเสถียร แม่นยำ และตรงต่อเวลา ซึ่งจะพร้อมสรรพเปิดวิ่งให้บริการผู้โดยสารในเดือน ก.ย.64 โดยจะวิ่งสลับกันครั้งละ 2-3 ขบวน ส่วนอีก 1ขบวนเก็บไว้ใช้สำรอง
สำหรับรถไฟฟ้าไร้คนขับ รุ่น Airval ผลิตในโรงงานที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นรถไฟฟ้าเป็นล้อยาง ยึดเกาะได้ดีในพื้นที่ลาดเอียง เมื่อเข้าโค้งจะให้เสียงค่อนข้างเงียบกว่าระบบรถไฟฟ้าอื่น ใช้ความเร็วสูงสุดที่ 80 กม.ต่อชม. รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 210 คนต่อขบวน หรือประมาณ 6,000 คนต่อชม.
ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการนำรถไฟฟ้าไร้คนขับมาวิ่งใหบริการรับส่งผู้โดยสารฟรีภายในสนามบิน เหนือสิ่งอื่นใดนี่คือการยกระดับการบริการรับ-ส่งผู้โดยสารภายในสนามบินด้วยรถไฟฟ้าไร้คนขับที่ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงเทรนด์เทคโนโลยีโลกเช่นเดียวกับสนามบินระดับโลกในอีกหลายประเทศทั่วโลก
ที่มุ่งหวังการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ไม่ก่อมลพิษทางเสียง-อากาศ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
…อดใจรออีกนิดปีหน้าได้บรรจงบั้นท้ายนั่งแน่ๆ!
:ขันธ์ธีร์
