“สิงห์ตะวันเพลิง” ขอรายงานตัวประจำฐานกองบัญชาการข่าวคอลัมน์“เลาะระเบียงขนส่ง” ทำหน้าที่รายงานข่าวเด่น-ดัง-ร้อนในแวดวงสังคมขนส่งไทย พลางหยิกแกมหยอกบรรดาพี่น้องสิงห์รถบรรทุกและผู้ประกอบการขนส่งทั่วฟ้าเมืองไทยในห้วงโค้งสุดท้ายปลายปีหมูขอรับกระผม
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหล่ะว่าเหลืออีกเพียงไม่ถึง 2 เดือนปี 62ก็จะโบกมือลาหมู่เฮาไปอีกปี ไวเหมือนโกหก มันเป็นสัจธรรมที่ว่าอันเวลาและวารีไม่เคยรอมนุษย์หน้าไหนจริงๆ ดังนั้น ใครจะตั้งใจจะทำอะไรอย่ารีรอลงมือทำเลยไม่งั้นอาจไม่ทำนะจ๊ะ
วกเข้าแวดวงรถใหญ่เมืองไทยเพลานี้จับยามสามตาแล้วแต่ละค่ายก็น่าจะเร่งปิดยอดขายกันหน้าดำคร่ำเครียด หลังผ่านไป 9 เดือน(ม.ค.-ก.ย.) สถิติยอดขายรวมรถใหญ่ทุกค่ายที่รวบรวมโดยค่ายฮีโน่ พบว่าค่ายพี่ใหญ่อีซูซุโกยไป 11,407 คัน ส่วนพี่รองฮีโน่ก็กวาดไป 9,048 คัน ส่วนอันดับสามตกเป็นของค่ายยูดี ทรัคส์ที่แรงดีต่อเนื่องสอยไปนิ่มๆ 811 คัน ส่วนอันดับสี่ยังเป็นของค่ายชบาแดงที่ฟอร์มยัง “สาละวันเตี้ยลงๆ”อย่างน่าใจหายจัดไปแบบหายใจไม่ทั่วท้องแค่ 336 คัน
เวทีรถใหญ่แดนปลาดิบปีนี้หากไม่เกิดเหตุฟ้าถล่มทลายก็ย่ำรอยเดิมเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เจ้าตลาดขาประจำไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกก็ขาใหญ่อย่าง “อีซูซุ” ไม่มีอะไรแหกโผช่วงปลายปีแน่นอน บัลลังก์แชมป์ยอดขายรถญี่ปุ่นยังเหนียวหนึบ ส่วนท่านรอง “พี่ฮีโน่”เขาจองเหมือนเดิม แม้ยกแรกๆดูจะออกหมัดสูสีกันแต่สุดท้าย “อีซูซุ”ก็ชนะขาดไปทุกทีไป
เรียกได้ว่าค่ายอีซูซุแทบจะ “จองกฐินแชมป์”เวทีรถใหญ่ญี่ปุ่น และกล้าจะจองกฐินแชมป์ข้ามปีเลยก็ว่าได้ จะไม่จองข้ามปีได้ไงครับพี่น้อง ปีหนึ่งๆ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่นีก็เล่นโกยยอดขายซะพุงกาง พี่เบิ้มอีซูซุก็ปาเข้ากว่าหมื่นคัน เขมือบสัดส่วนตลาดไปเกือบ 50% ส่วนฮีโน่ก็ไม่น้อยหน้าไล่บี้ตามมาติดๆแตะหมื่นคันเช่นกันกินสัดส่วนตลาดประมาณ 45%
ส่วนที่เหลือนิดหน่อยก็แบ่งให้กับค่ายอื่นๆแย่งชิงกันเอาเอง โดยอันสามค่ายยูดี ทรัคส์ที่มียอดขายดีขึ้นต่อเนื่องทุกปีตีตราจองเบอร์สามไว้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนเบอร์สี่ไม่ใช่ใครที่ไหนก็“ค่ายชบาแดง” หรือฟูโซ่ไงล่ะจ๊ะ หลังบริษัทแม่เดมเลอร์กระชากจากอกดิสทริบิวเตอร์เก่าหวังลุยไฟการตลาดเอง แต่ก็ต้องเผชิญวิบากกรรมซ้ำซาก&รอบด้าน ทั้งศึกนอกศึกในเละตุ้มเป๊ะ ส่วนยอดขายแม้จะค่อยๆขยับขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังห่างไกลจากเป้าที่วางไว้
ฟากเวทีรถยุโรปปีนี้ สิงห์ตะวันเพลิง โทษฐานที่เคยหลงระเริงในป่าดงดิบสิบล้อเมืองไทยมาประมาณหนึ่ง เคยเซิ้งปลายปากกามาตั้งแต่ต้นปีว่าการศึกระหว่าง “ค่ายวอลโว่กับค่ายสแกนเนีย”ปี 62 นี้ทั้ง 2 มหาอำนาจรถใหญ่ยุโรปจะเปิดเกมแลกหมัดกันสนุกสุดเหวี่ยงแน่
แม้ผ่านช่วงครึ่งปีแรกไปเหลือบเห็นสถิติยอดขายค่ายสแกนเนียเริ่มเร่งเครื่องหนีห่างค่ายวอลโว่พอสมควรโดยทิ้งห่างกว่า 100 คันถือเป็นการทิ้งห่างค่ายคู่แข่งคนบ้านเดียวกันหลายช่วงตัว เรียกว่า “เห็นเส้นชัยอยู่ร่ำไร”อย่าลืมว่าเวทีรถใหญ่ยุโรปคันหนึ่งๆราคาเกือบ 4 ล้าน หรือ 4 ล้านต้นๆ การทิ่งห่างระดับกว่า100คันถือว่าไม่ธรรมดา…ก่าไก!
สิงห์ตะวันเพลิง เคยหล่นวาจาไว้ ณ ที่นี่แหล่ะว่าเวลาที่เหลือจากนี้ไปถึงสิ้นปียากมากๆที่วอลโว่จะไล่บี้-เบียดตามทัน แต่ที่ไหนได้พลันที่เห็นยอดขายรวมรถใหญ่ยุโรปหลังผ่านพ้นไปได้ 9 เดือนเท่านันแหล่ะก็หล่นอุทาน โอ้!อนิจจา!จ๊ะทิงจา! เลยทีเดียวเชิียว
เพราะค่ายสแกนเนียปั้มยอดขาย 375 คัน ขณะที่วอลโว่ ทรัคส์ตามมาไม่ห่างมากนักสอยไป 324 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดไปชิลล์ๆ 73 คัน ฟากพญาราชสีห์ MAN ล่าพออิ่มท้อง 28 คัน
ถึงตอนนี้ก็เข้าสู่โค้งร้อยเมตรสุดท้ายปี 62 เต็มแก่แล้ว เหลือเพียงไตรมาสเดียวให้ทุกค่ายได้เซิ้งกลยุทธ์การตลาดลุยเก็บเกี่ยวยอดขายปลายปีกันสุดลิ่ม! โดยเฉพาะ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่จากสวีเดน ที่การศึกในสมรภูมิรถใหญ่เมืองไทยใหญ่หลวงยิ่งนัก เพราะมี “บัลลังก์เจ้าตลาดยูโรเปี้ยนทรัค”เป็นเดิมพัน
เมื่อเทียบยอดขายหลังผ่านไป 9 เดือนค่ายสแกนเนียทิ้งระยะห่างค่ายเพื่อนบ้านเดียวกันอย่างววอลโว่ ทรัคส์ประมาณ 51 คัน ถือว่าไม่ห่างมากนักที่วอลโว่ ทรัคส์จะเร่งเครื่องไล่บี้ปาดหน้าสแกนเนียได้ทันกับห้วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ระยะห่างแค่นี้อะไร…ก็…เกิด…ขึ้น…ได้!
เวลาที่เหลือของปีนี้ค่ายวอลโว่ ทรัคศ์ จะรีดพลังเป็นม้าแรงปลายปาดหน้าค่ายสแกนเนียได้หรือไม่? ถือเป็นการพิสูจน์ศักยภาพค่ายวอลโว่ ทรัคส์อย่างยิ่งที่กู้หน้าคืนสู่ปฏิบัติการทวงคืน“บัลลังก์เจ้ายุโรป” หลังเสียแชมป์ไป 2 ปีซ้อน(60-61)ให้กับค่ายเพื่อนบ้านเดียวกัน
เวทีรถใหญ่ญี่ปุ่นมีเพียง2 ค่ายมหาอำนาจ คือ“อีซูซุ-ฮีโน่” ไล่บี้ความยิ่งใหญ่ชนิดสูสีฉันใดก็ดี ฟากเวทีรถใหญ่ยุโรปก็มี 2 ค่ายมหาอำนาจ “วอลโว่-สแกนเนีย”ก็ฉันเพลแหล่ะคุณโยมทั้งหลาย
การแข่งขันทางธุรกิจก็ไม่ต่างจากเกมกีฬามีแพ้มีชนะเป็นเรื่องธรรมดา กับคำกล่าวที่ว่า “กีฬามีแพ้มีชนะ เป็นแชมป์ว่ายากแล้ว รักษาแชมป์ไว้ได้นี่สิโคตรยาก”น่าจะเป็นคำกล่าวเตือนสติเราๆท่านๆได้เป็นอย่างดี ผู้ชนะก็อย่าหลงระเริงตัวเองจนเพลิน ส่วนผู้แพ้ก็อย่าท้อจนลืมลุกขึ้นสู้ วันนี้เราไม่ชนะวันหน้าอาจเป็นวันของเรา
สาธยายมาถึงบรรทัดนี้ ก็ขอบ๊ายบายไปก่อน เจอกันฉบับหน้าครับ!
:สิงห์ตะวันเพลิง