รฟท.เร่งสร้างรถไฟทางคู่สายใต้เฟสแรก (นครปฐม-ชุมพร)ระยะทาง 421 กม.วงเงิน 3.39 หมื่นล้าน หนุนการเดินทาง-ขนส่ง-ท่องเที่ยวสะดวกรวดเร็ว คาดเปิดใช้ปี 65 พร้อมเดินหน้าแผนลงทุนทางคู่สายใต้ต่อเฟสสอง (ชุมพร-ปาดังเบซาร์) ระยะทาง 534 กม.วงเงินกว่า 8 หมื่นล้าน
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่สายใต้เฟสแรก(นครปฐม-ชุมพร)ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าการก่อสร้างเฉลี่ย 28% แบ่งเป็น ช่วงนครปฐม-หัวหิน คืบหน้า 33% ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 30% และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 19% เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจากสถานีกลางบางซื่อถึงสถานีชุมพร จะใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมง จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง
“ถือว่าโครงการรถไฟทางคู่เป็นเส้นทางที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นพัฒนาการเดินทางและการขนส่งให้มีความสะดวกสบาย ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเส้นทางการค้า การขนส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ให้มีความรวดเร็ว สร้างความคุ้มค่าต่องบประมาณการพัฒนาประเทศ”
อย่างไรก็ตาม เส้นทางรถไฟทางคู่สายใต้เฟสแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 จากนั้นใช้เวลาติดตั้งงานระบบอีก 1 ปี ก่อนเปิดใช้ในปี 2565 ขณะเดียวกัน รฟท.มีแผนลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้เฟส 2 ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท รถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา วงเงิน 5.7 หมื่นล้านบาท และรถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 48 กม. วงเงิน 8 พันล้านบาท
นอกจากนี้ นายวรวุฒิ ยังได้ระบุถึงความคืบหน้ารถไฟทางคู่สายอีสานว่าภายในปีนี้เราจะเร่งออกแบบและผลักดันโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติไปแล้ว ประกอบด้วย รถไฟทางคู่ช่วง บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 6.79 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกที่เข้าสู่อีสานตอนกลาง โดยในพื้นที่ดังกล่าวนี้ยังไม่มีรถไฟเข้าถึงมาก่อนเลย
ส่วนอีกเส้นทางหนึ่ง คือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 8.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกพระราชกฤษฎีกา หรือ พรฎ. เวนคืนพื้นที่ก่อสร้างคาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2567 โดยมีแนวเวนคืน 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย โดยแนวเส้นทางจะเริ่มต้นที่สถานีเด่นชัย จ.แพร่ มุ่งไปทางทิศเหนือ ผ่าน จ.ลำปาง พะเยา และเชียงราย สิ้นสุดที่ด่านพรมแดนเชียงของ จ.เชียงราย
