บมจ. สหกลอิควิปเมนท์) หรือ SQ ผู้รับเหมางานเหมืองแร่อย่างครบวงจรในประเทศไทยและภูมิภาค CLMV ขยายกองรถด้วยการสั่งซื้อรถวอลโว่ ทรัคส์ รุ่น FMX จำนวน 26 คันรองรับแผนขยายงานในเหมืองถ่านหินหงสา เพื่อป้อนถ่านหินให้แก่หงสา พาวเวอร์ โรงไฟฟ้าถ่านหินในสปป.ลาว
นายวิทวัส ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ SQ กล่าวว่าเรามีความจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการขุดและขนส่งถ่านหินจากเหมืองถ่านหินหงสาไปยังโรงไฟฟ้าหงสาพาวเวอร์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินผลิตไฟฟ้าขายให้แก่ประเทศไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 โดยเราได้รับมอบหมายให้เร่งดำเนินการป้อนถ่านหินให้ได้ตามความต้องการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น”
SQ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2513 ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ต่อมาได้ขยายกิจการไปยังธุรกิจเหมืองครบวงจร ตั้งแต่การเปิดหน้าดินไปจนถึงการขุดสินธุ์แร่ให้แก่ผู้รับสัมปทาน ในประเทศไทยและภูมิภาค CLMV โดยขณะนี้ SQ ได้รับสัญญาการขุดและขนส่งถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เหมืองถ่านหินหงสา สปป.ลาว ซึ่งคิดเป็นปริมาณงานที่เซ็นสัญญาแล้วของทั้ง 2 แหล่ง คงเหลือประมาณ 29,600 ล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ไปอีกประมาณ 9 ปี ประกอบด้วย โครงการแม่เมาะ 8 มูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท โครงการหงสา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท โครงการแม่เมาะ 7 มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท
นายวิทวัส กล่าวอีกว่าคำสั่งซื้อรถวอลโว่ ทรัคส์ จำนวน 26 คันเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ 31 คันเพื่อรองรับแผนการเร่งขุดและขนส่งถ่านหินป้อนให้แก่โรงไฟฟ้าหงสาพาวเวอร์ในระหว่างปี 2015-2026 โดยจะต้องดำเนินการเปิดหน้าดิน 235 ล้านลูกบาศก์เมตรแน่น และถ่านหิน 82.5 ล้านเมตริกตัน
“การเพิ่มจำนวนรถบรรทุกและเครื่องมือที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจเหมืองแร่ เราจึงตัดสินใจเดินหน้าสั่งรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ เป็นจำนวนมากเพราะเราเชื่อมั่นในคุณภาพของตัวรถว่าเป็นรถที่มีความแข็งแรงคงทนและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม” นายวิทวัส ศิริสรรพ์ กล่าว
ทางด้านนายพริษฐ์ เอกวัฒนกิจ รองประธานฝ่ายขายวอลโว่ ทรัคส์ กล่าวเสริมว่ารถบรรทุก วอลโว่ ทรัคส์ รุ่น FMX นี้ถือเป็นรถที่ตอบโจทย์ลูกค้างานเหมืองแร่โดยเฉพาะเพราะได้ถูกออกแบบเป็นรถสำหรับทางวิบากโดยเฉพาะ มีความแข็งแรง คงทนและสามารถใช้ได้กับทุกสภาพถนน
“วอลโว่ได้พัฒนาระบบขับเคลื่อนรถบรรทุกขนาดใหญ่อย่าง วอลโว่ FMX ไปอีกขั้น มีระบบขับเคลื่อนทุกล้อโดยอัตโนมัติ เพื่อสมรรถนะการขับขี่ดีขึ้น เน้นให้มีคุณลักษณะใหม่ในการควบคุมด้วย Automatic Traction Control (ATC) ช่วยผู้ขับขี่สามารถขับรถผ่านอุปสรรคได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังช่วยลดการสึกหรอของรถบรรทุกได้อีกด้วย”
