นิตยสาร Logistics Time ปีที่ 15 ฉบับที่ 169 ประจำเดือนพฤศจิกายน 2561 : “สิงห์ตะวันเพลิง” ขอรายงานตัวประจำฐานกองบัญชาการข่าวคอลัมน์“เลาะระเบียงขนส่ง” ทำหน้าที่รายงานข่าวเด่น-ดัง-ร้อนในแวดวงสังคมขนส่งไทย พลางหยิกแกมหยอกบรรดาพี่น้องสิงห์รถบรรทุกและผู้ประกอบการขนส่งทั่วฟ้าเมืองไทยอีกแล้วครับกระผม
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหล่ะว่าเหลืออีกเพียงไม่ถง 2 เดือนปี 61 ก็จะโบกมือลาหมู่เฮาไปอีกปี มันเป็นสัจธรรมที่ว่าอันเวลาและวารีไม่เคยรอมนุษย์หน้าไหนจริงๆ ดังนั้น ใครจะตั้งใจจะทำอะไรอย่ารีรอลงมือทำเลยไม่งั้นอาจไม่ทำนะจ๊ะ ยิ่งช่วงนี้เป็นฤดูกาลกฐินห้วงเวลา 1 เดือนที่ชาวพุทธจะได้เดินสายทำบุญตามที่ได้ “จองกฐิน”ตามวัดวาอารามทั่วประเทศเอาไว้ สิงห์ตะวันเพลิง ขออนุโมทนาสาธุการกับกองบุญกองกุศลด้วยจร้า
วกเข้าแวดวงรถใหญ่เมืองไทยเพลานี้จับยามสามตาแล้วแต่ละค่ายก็น่าจะเร่งปิดยอดขายกันหน้าดำคร่ำเครียด เวทีรถใหญ่แดนปลาดิบปีนี้ก็ย่ำรอยเดิมเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เจ้าตลาดขาประจำไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกก็ขาใหญ่อย่าง “อีซูซุ” ไม่มีอะไรแหกโผช่วงปลายปีแน่นอน บัลลังก์แชมป์ยอดขายรถญี่ปุ่นยังเหนียวหนึบ ส่วนท่านรอง “พี่ฮีโน่”เขาจองเหมือนเดิม แม้ยกแรกๆดูจะออกหมัดสูสีกันแต่สุดท้าย “อีซูซุ”ก็ชนะคะแนนแบบใสๆทุกทีไป
เรียกได้ว่าค่ายอีซูซุเล่น “จองกฐินแชมป์”เวทีรถใหญ่ญี่ปุ่นทุกปี และแกร่งกล้าพอจะจองกฐินแชมป์ข้ามปีเลยก็ว่าได้ จะไม่จองข้ามปีได้ไงครับพี่น้อง ปีหนึ่งๆ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่นีก็เล่นโกยยอดขายซะพุงกาง เฉพาะพี่เบิ้มอีซูซุก็ปาเข้ากว่าหมื่นคัน เขมือบสัดส่วนตลาดไปเกือบ 50% ส่วนฮีโน่ก็ไม่น้อยหน้าไล่บี้ตามมาติดๆแตะหมื่นคันเช่นกัน กินสัดส่วนตลาดประมาณ 45%
ส่วนที่เหลือนิดหน่อยก็แบ่งให้กับค่ายอื่นๆแย่งชิงกันเอาเอง โดยอันดับสามค่ายยูดี ทรัคส์ ที่มียอดขายดีขึ้นต่อเนื่องทุกปีตีตราจองเบอร์สามไว้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนเบอร์สี่ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ค่ายชบาแดง หรือฟูโซ่ หลังบริษัทแม่เดมเลอร์กระชากจากอกดิสทริบิวเตอร์เก่าหวังทำการตลาดเอง แต่ก็ต้องเผชิญวิบากกรรมรอบด้าน (อ่านข่าว ค่ายชบาแดง! บนเส้นทางวิบาก(กรรม) http://www.logisticstime.net/archives/11074) ยอดขายแม้จะค่อยๆขยับขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังห่างไกลจากเป้าที่วางไว้
ภายใต้ชายคาบ้านหลังใหม่ DCVT และจากการถูกขับเคลื่อนด้วยภูมิปัญญา&ตำราฝรั่งมังค่าสายตรงจากเมืองเบียร์ ถึงวันนี้ค่ายชบาแดงก็ยังเผชิญวิบากกรรมซ้ำซากเล่นงานอยู่ร่ำไป หลายปัญหายังไม่ถูกปลดแอกโดยเฉพาะวิสัยทัศน์การมองตลาดรถใหญ่เมืองไทย และที่สำคัญทัศนคติต่อบรรดาดีลเลอร์ต่างๆยังมิอาจ “ผูกเสี่ยว”ทางธุรกิจให้กลมเกลียวเหนียวแน่นกันได้
แว่วมาว่า ปิศาจขนส่ง คอลัมนิสต์สายรถใหญ่ได้จองกฐินเอาไว้แล้ว และพร้อมจะแห่องค์กฐินไปประเคนให้หน่ำใจเร็วๆนี้ ทั้งประเด็นการทุ่มทุน 450 ล้านโรงงานแห่งใหม่ รวมถึงเรื่องงามไส้ที่ไม่น่าจะเป็นประเด็นได้กับ “ปมห้ามช่างภาพ-นักข่าว”ถ่ายภาพผู้บริหารระดับสูงบนเวทีแถลงข่าวล่าสุด จนช่างภาพ-นักข่าวต่างก็งงเป็นไก่บักโจ้นตาแตกไปตามๆกัน พร้อมอยากจะหัวเราะเป็นภาษามอนเตเนโกรพลางบ้วนอะไรบางอย่างจากปากเป็นภาษาเยอรมันตะวันออกเฉียงเหนือว่า “Hey you,what ‘s happen?”
กลายเป็นประเด็นข่าวซุบซิบเล็ดรอดออกจากห้องแถลงข่าวผู้บริหารระดับสูงจากอีกซีกโลกหนึ่งถึงได้กล้าใช้หลัก “ความคิดโง่ๆแบบงี่เง่า”เยี่ยงนี้พรั่งพรูออกจากขุมกบาลพวกเขาได้ นี่ถ้าเป็นวัยรุ่นแถวบ้านโคกหมาว้อแว๊นมอร์ไซค์ผ่านมาได้ยินจะพากันลั่นวาจาโดยมิได้นัดหมายว่า “ควายล้วนๆ…ไม่มีวัวปน”… Oop!ติดตามต่อได้กับประเด็นร้อน ค่ายชบาแดง! บนเส้นทางวิบาก(กรรม) ภาค 2 เร็วๆนี้!
ฟากเวทีรถยุโรปปีนี้ผู้คร่ำหวอดในแวดวงก็คาดการณ์ว่าการศึกระหว่างค่ายวอลโว่กับค่ายสแกนเนีย จะเปิดเกมแลกกันสนุกสุดเหวี่ยง ที่ไหนได้พอผ่านมาถึงยกที่ 3 เท่านันแหล่ะ ค่ายสแกนเนียเริ่มตีคะแนนหนีห่างค่ายวอลโว่พอสมควร เพราะเหลือดูจากยอดขาย 9 เดือน เจ้านกกริฟฟินโฉบยอดขายไปแล้วกว่า 400 คัน ทิ้งห่างวอลโว่กว่า 100 คัน เป็นการทิ้งห่างค่ายคู่แข่งคนบ้านเดียวกันหลายช่วงตัว ภาษามวยเรียกว่า “แบเบอร์”
เวทีรถใหญ่ยุโรปคันหนึ่งๆราคาเกือบ 4 ล้าน หรือ 4 ล้านต้นๆ การทิ่งห่างระดับกว่า 100 คันถือว่าไม่ธรรมดาก่าไก เพราะการทิ้งห่างมากๆขอบอก เวลาที่เหลือจากนี้ไปถึงสิ้นปี สิงห์ตะวันเพลิง กล้าฟันธงว่ายากมากๆที่วอลโว่จะไล่บี้-เบียดตามทัน ถือว่าเป็นฟอร์มอันร้อนแรง 2 ปีต่อเนื่องของค่ายสแกนเนียหลังปาดหน้าเข้าเส้นชัย พร้อมทะยานครองความเป็น “เจ้าตลาดรถใหญ่ยุโรป” เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แลวหลังตกเป็นท่านรองมาโดยตลอด
เวทีรถใหญ่ญี่ปุ่นมีเพียง 2 ค่ายมหาอำนาจ คือ “อีซูซุ-ฮีโน่” ไล่บี้ความยิ่งใหญ่ชนิดสูสีฉันใดก็ดี ฟากเวทีรถใหญ่ยุโรปก็มี 2 ค่ายมหาอำนาจ “วอลโว่-สแกนเนีย”ก็ฉันเพลแหล่ะคุณโยม ส่วนเหตุผลกลใดสแกนเนียถึงได้โค่นวอลโว่ลงได้นั้น สิงห์ตะวันเพลิง ผู้มีความรู้เท่าหางอึงมิอาจหาญกล้าวิพากษ์วิจารณ์หรอกขอรับท่าน แต่กล้าหล่นวาทกรรมได้ว่า “กีฬามีแพ้มีชนะ เป็นแชมป์ว่ายากแล้ว รักษาแชมป์ไว้ได้นี่สิโคตรยาก” แหม…ถ้าเป็นภาษาวัยรุ่นแถวพระโขนงจะพรั่งพรูเสียงหลงว่า “พี่..โคตรเจ๋งเลยว่ะ”
เพลานี้จอมทัพแห่งค่ายสแกนเนียอย่างคุณสเตฟาน ดอร์สกี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ปีที่แล้วว่ายิ้มหน้าบานแล้วปีนี้ยิ่งบานเป็นจานดาวเทียมไทยคมเลยทีเดียว ถือเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญภายใต้การกุมบังเหียนของผู้บริหารระดับสูงสายตรงจากสวีเดนท่านนี้ ที่สำคัญการเดินเกมของค่ายสแกนเนีย ยิ่งถูกจับตามมองเป็นพิเศษขึ้นอีก เพราะปลายปีที่ถึงนี้สแกนเนียจะได้ฤกษ์เปิดไลน์การผลิต-ประกอบรถบรรทุกและรถบัสโดยสารที่โรงงานแห่งใหม่ และพร้อมจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่แบบอลังการต้นปีหน้า เป็นการเสริมเขี้ยวเล็บ-เติมความแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญขึ้นไปอีก
ฟากผู้บริหารระดับสูงคนไทยคนแรกของค่ายวอลโว่ ทรัคส์อย่างคุณกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ วอลโว่ ทรัคส์(ประเทศไทย) เมื่อช่วงต้นปีถูกเหยี่ยวข่าวสายรถใหญ่แซะคำถามมีความมั่นใจแค่ไหนต่อปฏิบัติการยึดคืน“แชมป์แชมป์รถใหญ่ยุโรป”คุณกำลาภ“…เมื่อปีที่แล้ววอลโว่ ทรัคส์ ได้อันดับสอง พอถึงปีนี้จากเดิมที่ทำงานหนักอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มแรงขับเคลื่อนมากกว่าเดิม …เรามั่นใจเสามารถยึดความเป็น“เจ้าตลาดรถบรรทุกพรีเมี่ยมยุโรป”กลับคืนมาได้”
ถึงตอนนี้ผู้บริหาระดับสูงคนไทยคนแรกคงทราบดีถึงสถานการณ์อันเป็นจริงที่เกิดขึ้น สิงห์ตะวันเพลิง คาดการณ์ว่าค่ายวอลโว่ ทรัคส์ คงมองการณ์ไกลไปถึงปีหน้าแล้วแหล่ะว่าจะงัดหมัดเด็ดอะไรออกมาต่อกรกับค่ายคุ่แข่งบ้านเดียวกัน เพราะการเสียบัลลังก์แชมป์รถใหญ่ยุโรป 2 ปีซ้อน มันเป็นกระจกบานใหญ่สะท้อนให้เห็นอะไรคมชัดแจ๋วยิ่งภาพ SuperHD และที่สำคัญไปกว่านั้นมันสะเทือนเลือนลั่นไปถึงสวีเดนแน่ๆ…Oops!
ฟากสมรภูมิผู้ผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์เมืองไทยช่วง 100 เมตรสุดท้ายมีความพลิ้วไหวดังไผ่ต้องลมของยอดขายรวมของค่าย Panus แบรนด์ดังฝั่งเมืองชนฯที่ขายดิบขายดีเป็น Thailand Best Seller พลิ้วไม่พลิ้วแรงไม่แรงก็ส่งกระแสลมเย็นๆโชยไปยังฝั่งแบรนด์ดังฝังกระทุ่มแบนไม่มากก็น้อย ….Oops !!!
คุณหนุ่ย-ณัชชา วงศ์คำภู ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด (Panus) แหวกสายลมเย็นๆอัพเดทยอดขายปี 61หลังผ่าน 10 เดือนแรกว่าค่าย Panus มียอดขาย 10 เดือนแรกพุ่ง 3,100 คัน พร้อมทะยานครองสัดส่วน “เบอร์หนึ่ง”ตลาดรวม 25% มั่นใจเบอร์ใหญ่ทั้งปีทะลุ 3,600 คันตามเป้า พร้อมกับฟันธง“รถบรรทุกรถยนต์”จะกลับมาบูมอีกครั้งในปี62-63 เพราะได้รับอานิสงส์ปริมาณการผลิตรถยนต์ทะลัก ผนวกผู้ผลิตยานยนต์รายใหม่แห่ลงทุนในไทย
สิงห์ตะวันเพลิง ดูตามทิศทางลมเย็นๆยามนี้แล้ว หากไม่เกิดอาเพศครั้งมหึมาหรืออสุนีบาตไม่ฟาดเปรี้ยงลงแถว 4 แยกพนัสนิคม ค่าย Panus น่าจะจองกฐินบัลลังก์ “เจ้าตลาดผู้ผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์” ไปแบบชิลล์ๆพลิ้วไหวไปกับสายลมเย็นๆ
…เจอกันฉบับหน้าครับพี่น้อง!พูดมาก…เจ็บคอและลมเป็นเย็นอีกด้วย!
