องค์การนักศึกษา สภานักศึกษา ร่วมกับชมรมพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ได้จัดพิธีไหว้ครู ประจำปีการศึกษา 2561 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2561 ณ หอประชุมประดู่แดง ชั้น 2 อาคารอเนกประสงค์ ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาได้ตระหนักถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้และได้แสดงถึงความกตัญญูกตเวที ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังคุณธรรมขั้นพื้นฐานอันดีงามคือ ความเคารพ ความมีวินัย และความอดทน ให้แก่นักศึกษา เช่นเคยค่ะ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ มจพ. ก็ลงพื้นที่รอบๆ มจพ. เป็นแมวมอง มองหากลุ่มนักศึกษาเพื่อพูดคุยกับน้องศึกษาในประเด็นที่ว่า คิดอย่างไรกับครูที่เป็น “ปูชนียบุคคล” “แม่พิมพ์ของชาติ” มาฟังน้องเยาวชนกล่าวถึงครู-อาจารย์ ในทัศนะต่าง ๆ เริ่มจากคนแรก
1.นายเขตต์ คงนคร ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา (CED) คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มจพ. จบการศึกษาวิทยาลัยเทคนิคแพร่ (ได้โควต้า) “ผมคิดว่าการจัดงานวันไหว้ครู เป็นดีที่ยึดถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานซึ่งเป็นประเพณีให้ลูกศิษย์ได้แสดงความกตัญญูกตเวทีและเชิดชูครู” ถึงแม้บางอย่างมีการปรับเปลี่ยนตามยุคตามสมัย แต่ยังคงสืบทอดรุ่นสู่รุ่นในการไหว้ครู เพื่อเป็นการระลึกถึงครู – อาจารย์ (ลูกศิษย์-ครู) และการที่เราย่างก้าวเข้ามาสถาบันการศึกษาก็เท่ากับมาฝากเนื้อ ฝากตัว เป็นศิษย์และผมมองว่าเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันในรั้ว มจพ. ผมฝากข้อคิดไว้ว่า “ความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายของการเดินทาง แต่อยู่ที่เส้นทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป” ขอเชิญชวนเพื่อนๆ ร่วมงานนะครับ
- นายภาณุวชิญ์ ขวัญนู ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา (CED) คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มจพ. จบการศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคอุบลราชานี (ได้โควต้า) “ประเพณีการไหว้ครูเป็นเครื่องย้ำเตือนว่า เราเข้ามาศึกษาในฐานะนักเรียน” ส่วนครูก็ย้ำเตือนให้เรารู้ว่า เราเข้ามาเป็นศิษย์แล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุดในบทบาทที่เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ วันไหว้ครูทำให้ผมนึกถึง “พระคุณของครูบาอาจารย์ ที่ท่านเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับลูกศิษย์ และได้แสดงถึงความกตัญญูกตเวที” รุ่นแล้วรุ่นเล่า เพราะครูเปรียบเสมือนเรือจ้างที่คอยส่งเด็กข้ามฝั่งอย่างปลอดภัย ขึ้นฝั่งถึงที่หมาย และเฝ้ามองความสำเร็จของลูกศิษย์ ฝากเพื่อนๆ มาร่วมงานกันทุกคน เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่-รุ่นน้อง และร่วมเปิดโลกทัศน์ไปด้วยกันครับ
- นางสาวปนัดดา คำสุขุม (น้ำตาล) ชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ สาขาสถิติธุรกิจและการประกันภัย มจพ. จบการศึกษาจาก โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านนทบุรี “วันไหว้ครูเป็นวันที่ระลึกถึงพระคุณของครูอาจารย์ที่คอยอบรมสั่งสอนไม่ใช่แค่ความรู้ แต่รวมทั้งประสบการณ์การใช้ชีวิต” อยากขอบคุณคุณครูที่คอยแนะนำสิ่งดีๆ ให้ ฝากข้อคิดว่า “เป็นประเพณีที่ควรอนุรักษ์ เพราะเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความกตัญญูต่อครู เพราะท่านให้ความรัก ห่วงใยเหมือนลูก” ในช่วงพิธีอาจจะใช้เวลานาน แต่อยากให้อดทน ให้เห็นความสำคัญ สำรวมและไม่พูดคุยระหว่างพิธี อาจกล่าวได้ว่า “ครูก็เหมือนคนเจียรไนเพชร แม้ว่าเพชรจะมีค่าในตัวมันเอง แต่หากไม่มีคนเจียรไน เพชรมันย่อมไร้ประกายที่สดใสสวยงาม” และเพชรเม็ดนั้นจะหมดโอกาสเปล่งประกายตลอดไป4นางสาวสุมดี อาภาสกุลเดช (มิล) ชั้นปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเซรามิกส์ มจพ. จบการศึกษาจากโรงเรียนโพธิสารพิทยากร ครู คือ ปูชนียบุคคล ที่ทำหน้าที่สอนศิษย์ให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถ ฉะนั้นวันไหว้ครูเป็นวันที่ให้ความสำคัญกับครูผู้ให้วิชาความรู้ เราในฐานะศิษย์ “ควรระลึกคุณของครู-อาจารย์ ซึ่งทำให้เราได้ก้าวไปอีกขั้น ทำให้เราเติบโตอย่างภาคภูมิใจ ในการประกอบอาชีพ ผู้ให้ความรักเราดั่งลูกหลาน คอยดูแลห่วงใย” วันไหว้ครูจึงเป็นวันที่น่าประทับใจและควรจดจำ ครูเหมือนดั่งรอบครัว ชวนเชิญให้มาร่วมงานกัน เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณครู
พิธีไหว้ครูระหว่างครูกับลูกศิษย์เป็นการได้สื่อสารถึงกัน ผ่านพิธีกรรมที่เป็นประเพณีของไทยที่นิยมปฏิบัติมาแต่สมัยโบราณ แสดงถึงความระลึกถึงบุญคุณของครู อาจกล่าวได้ว่าครูผู้สร้างโลก ครูเป็นผู้พัฒนาคนให้มีความรู้ความสามารถเพื่อให้คนเหล่านั้นไปพัฒนาสังคมประชาชาติ ครูคือผู้ให้แสงสว่าง ให้ความรู้แก่ศิษย์อย่างทั่วถึงทั้งวิชาการทางโลก และวิชาอันเป็นปัญญาด้านในที่เกิดจากการฝึกฝนเรียนรู้จากตำรา ครูอาจารย์ และ เป็นประสบการณ์จนถึงทุกวันนี้ “ครู-อาจารย์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ” อาชีพครูถือว่าสำคัญและมีบทบาทในการพัฒนาประเทศให้เจริญมั่นคง เพราะครู คือ “ปูชนียบุคคล” “แม่พิมพ์ของชาติ” ที่ควรแก่การเคารพบูชาเสมอ
ขวัญฤทัยข่าว/บุกเบิก ถ่ายภาพ