“เอไอเอส” ชำระเงินค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz งวดสอง 4.3 พันล้าน

0
108

เอไอเอส ในนาม เอดับบลิวเอ็น ได้ชำระเงินค่าประมูลสอง 4,301,400,000 บาท (รวมVAT) พร้อมแบงค์การันตีการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่งวดที่ 3 และงวดที่ 4 ให้กับ กสทช. เพื่อนำส่งเงินเป็นรายได้แผ่นดินพร้อมนำไปสนับสนุนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย กรุยทางสู่การขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป

ทวนเข็มนาฬิกากลับไป 2 ปีที่แล้วกับประเด็น Talk of the town มหากาพย์การประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz เขย่าวงการสื่อสารโทรคมนาคมไทยพร้อมราคาประมูลที่ถูกปั่นพุ่งทะยานเกือบแพงที่สุดในโลก ทว่าหลังผู้ร่วมประมูลบางรายประมูลคลื่นนี้ได้ไปกลับไม่สามารถหาเงินมาชำระได้ตามเงื่อนไขได้จนนายกรัฐมนตรีต้องงัด ม.44 เร่งประมูลใหม่เปิดทางให้ เอไอเอส ได้เข้ามารับช่วงคลื่นดังกล่าวมาใช้งานด้วยมูลค่าถึง 75,654 ล้านบาท

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2560  เอไอเอส ในนาม เอดับบลิวเอ็น ได้ชำระเงินค่าประมูลงวดแรก 8,602.8 ล้านบาท (รวมVAT) พร้อมแบงค์การันตี 72,346.98 ล้านบาท(รวมVAT) ให้กับ กสทช. เพื่อนำส่งเงินเป็นรายได้แผ่นดิน- พัฒนาประเทศต่อไป

และล่าสุด (16 ก.ค.61) ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น)ผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ได้นำเงินไปชำระค่าประมูลงวดที่ 2 เป็นจำนวน4,301,400,000 บาท (รวมVAT) พร้อมแบงค์การันตีการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่งวดที่ 3 และงวดที่ 4 ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เพื่อนำส่งเงินเป็นรายได้ของแผ่นดินในการนำไปสนับสนุนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย พร้อมขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป

ทั้งนี้ นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่านอกจากความจำเป็นในการใช้งานของเราแล้ว เราตัดสินใจเข้าประมูลใหม่ด้วยความตั้งใจและมุ่งเน้นร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมของบ้านเราให้เข้าที่เข้าทางและสามารถเดินต่อไปได้

“วันนี้ก็เป็นอีกครั้งครับที่เราเข้าไปชำระเงินจากการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz งวดที่ 2 เป็นเงิน 4,301,400,000 บาท ตามเงื่อนไขที่ กสทช. กำหนดไว้เพราะเรารู้ดีว่า หน้าที่ของผู้ให้บริการที่ประมูลคลื่นความถี่ได้มานั้น นอกจากจะต้องลงทุนโครงข่ายเพื่อให้บริการอย่างดีที่สุดแล้ว หน้าที่อีกด้านคือการปฎิบัติตามเงื่อนไข ข้อกำหนดทุกประการ เพื่อให้ภาครัฐสามารถนำเงินส่วนนี้ไปสร้างประโยชน์ได้อย่างรวดเร็วตามแผนต่อไป”

นอกจากนี้ นายสมชัย กล่าวย้ำอีกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมและชาวเอไอเอสทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ของเราในทุกด้านอย่างดีที่สุดในฐานะที่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีความเป็นมืออาชีพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ที่สำคัญยึดมั่นใน commitment ที่มีกับทุกๆกลุ่มเสมอ

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้กำกับดูแลที่สำคัญยิ่งอย่าง กสทช. จะบริหารงานอย่างถูกต้อง และเหมาะสม เพื่อให้อุตสาหกรรมเดินหน้าต่อไปได้ โดยมีการบาลานซ์ ทั้งในส่วนของผู้บริโภค ผู้ประกอบการทุกราย และภาครัฐเอง อย่างเป็นเท่าเทียม และเป็นธรรม เพราะนี่จะเป็นเสมือนหนึ่งการสร้างบรรทัดฐานและความเชื่อมั่นให้เกิดแก่ประเทศของเราโดยเฉพาะในสายตาของนานาประเทศที่กำลังจับจ้องเราในเวลานี้”