CPF ประกาศนโยบายสวัสดิภาพสัตว์สากล เลี้ยงสัตว์อย่างมีจริธรรมด้วยความรับผิดชอบ

0
234

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561  บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  ประกาศยกระดับการเลี้ยงสัตว์ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์สากลที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง   ตามเป้าหมายขยายการเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์อ้มท้องแบบคอกขังรวมให้ครอบคลุมธุรกิจประเทศไทยในปี 2568 และกิจการในประเทศในปี 2571  น.สพ.ดำเนิน  จตุรวิยวงศ์ รองกรรมการผู้จดการอาวุโส ด้านสัตวแพทย์บริการ ซีพีเอฟ กล่าวว่า สำหรับฟาร์มสร้างใหม่ในประเทศตั้งแต่ปี 2560 ถูกออกแบบเป็นคอกขังรวมสำหรับแม่พันธุ์สุกรอุ้มท้องทั้งหมด ส่วนฟาร์มเก่าที่เป็นคอกขังเดี่ยวจะทยอยปรับเปลี่ยน ส่วนฟาร์มสร้างใหม่ของธุรกิจในต่างประเทศจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2561 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ให้ครอบคลุมกิจการในและต่างประเทศ

ปัจจุบันฟาร์มเลี้ยงสุกรทั้งหมดเป็นโรงเรือนระบบปิดควบคุมอุณหภูมิด้วยการระเหยของน้ำ (Evaporative Cooling System หรือ EVAP ) เพื่อปรับอุณหภูมิได้เหมาะสมกับสัตว์ให้อยู่สุขสบายในสภาพแวดล้อมที่ดีไม่ทำให้สัตว์เครียด รวมถึง การขนส่งสุกรจะให้สัตว์เดินไปตามทางไปขึ้นรถ โดยมีการตีไล่ ขณะที่บนรถจะมีระบบสปริงเกอร์พ่นน้ำ เพื่อลดความร้อนและอุณหภูมิในตัวสัตว์และขนส่งในจำนวนที่เหมาะสมเท่านั้น

“ บริษัทประกาศนโยบายสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อตอกย้ำแนวทางการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบและมีจริยธรรมตามมาตรฐานสากล  โดยมุ่งเน้นทำให้สัตว์มีความสุขสบายตลอดการเลี้ยงดู รวมถึง ส่งต่อแนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศด้านสวัสดิภาพสัตว์ให้คู่ค้าธุรกิจของบริษัทนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเป็นหลักประกันให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะได้รับอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัย ”น.สพ.ดำเนิน กล่าว

น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการด้านมาตรฐานการผลิตสัตว์ปีและผู้เชี่ยวชาญสวัสดิภาพสัตว์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า การดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ของธุรกิจไก่เนื้อทั้งหมดของประเทศไทยได้ปฏิบัติตามหลักสวัสดิภาพสัตว์สากลมาตั้งแต่ปี 2543 และกำลังเร่งพัฒนาเจ้าหน้าที่สวัสดิภาพสัตว์ปีก ( Poultry Welfare Officer) ขยายขอบเขตจากประเทศไทยให้ครอบคลุมทุกประเทศภายในปี 2563 เพื่อช่วยตรวจสอบและให้คำแนะนำด้านสวัสดิภาพสัตว์อย่างถูกต้อง

สำหรับการเลี้ยงไก่ของซีพีเอฟในประเทศไทยมีการปฏิบัติตามมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์สากล ตั้งแต่โรงเรือนระบบปิด ( EVAP) ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ไก่มีสุขภาพดีมีอิสระในการแสดงพฤติกรรมธรรมชาติตามหลักการ FIVE Freedom ผ่านการตรวจสอบการปฏิบัติที่ดีอย่างสม่ำเสมอและได้รับรองจากบริษัทผู้ตรวจสอบชั้นนำของโลก และซีพีเอฟได้รับรองมาตรฐาน QS ( Quality and Safety ) ซึ่งเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารอย่างเคร่งครัด จากประเทศเยอรมนีเป็นรายแรกนอกสภภาพยุโรป

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเลี้ยงสัตว์ปีกตามแนวทาง “ระบบคอมพาร์ทเน้มท์” เพื่อป้องกันไข้หวัดนก และสนับสนุนหลักสวัสดิภาพสัตว์ในเรื่องปราศจากโรคภัย บาดเจ็บ ประกอบด้วย 1. มาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ( Biosecurity Management ) สำหรับสถานประกอบการตามหลักการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม หรือ HACCP สำหรับโรคไข้หวัดนก 2. การเฝ้าระวังโรคไขหวัดนกในฟาร์มและพื้นที่กันชนในรัศมี 1 กม. รองฟาร์ม (Surveillance ) 3. การควบคุมโรคไขหวัดนกในฟาร์มและพื้นที่กันชนในรัศมี 1 กม.รอบฟาร์ม 4. ระบบการตรวจสอบย้อนกลับ ( Traceability ) ทำให้สามารถติดตามข้อมูลการผลิตได้ตลอดห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่โรงงานผลิตอาหารสัตว์ (Feed) ถึงโรงงานแปรรูปอาหาร

น.สพ.พยุงศักดิ์ กล่าวต่อว่า  ปัจจุบันบริษัทกำลังสนับสนุนให้เกษตรกรที่ทำฟาร์มไก่เนื้อให้ดำเนินการตามหลักสัตว์สากล ด้วยการถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้ รวมถึงการฝึกอบรมให้เกษตรกรเข้าใจเพื่อนำความรู้ไปใช้ในฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ได้ขยายผลต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่บริษัทมีการลงทุน เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ให้ปฏิบัติด้วยหลักการเดียวกัน เพื่อให้ได้เนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย