คมนาคมเตรียมเตรียมเสนอแผนฟื้นฟู“รถไฟ-การบินไทย-ขสมก.”เข้าคนร.30พ.คนี้ มั่นใจผ่านฉลุย “ไพรินทร์”ย้ำแผนฟื้นฟูเดินมาถูกทางตั้งเป้ารถไฟเป็นศูนย์กลางระบบรางที่ 1ในอาเซียน –บินไทยลดขนาดองค์กร ลดขาดทุน-สร้างรายได้เพิ่มขึ้น “นอนแอร์โร่่”ส่วน ขสมก.เดินหน้าซื้อรถไฮบริด2,700คัน เสริมความแข็งแกร่งด้านบริการ ยกระดับคนกรุง
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยว่าวันที่ 30 พ.ค.นี้กระทรวงคมนาคมจะเสนอแผนฟื้นฟู องค์กรของ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ,องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.),การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เข้าเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.)ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยมั่นใจว่าแผนฟื้นฟูทั้ง3หน่วยงานรัฐวิสาหกิจมาถูกทางและสามารถแก้ไขปัญหาขาดทุนได้ในระยาว ทำให้องค์กรสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน
โดยแผนฟื้นฟูกิจการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) จากที่ได้มีการหารือทำแผนฟื้นฟูมาร่วมกันนั้นในแผนได้มี
การกำหนดเป้าหมายการดำเนินการอย่างชัดเจน และล่าสุด รฟท.ได้มีคณะกรรมการบอร์ด รฟท.ชุดใหม่ และ มีรักษาการผู้ว่า รฟท. ดังนั้นจึงเห็นว่าหน่วยงานมีหัวหน้าองค์กรที่จะสามารถผลักดันให้องค์การเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็งได้ โดยแผนฟื้นูมีทั้งแผนลงทุน แผนการดำเนินการและที่สำคัญมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ รฟท. เป็นศูนย์กลางระบบรางที่ดีติดอันดับ1ในอาซียนในปี 2570
นายไพรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนแผนฟื้นฟูกิจการ การบินไทย นั้นเป้าหมายหลักคือ ลดขนาดองค์กรให้เล็กลง ลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะลดสำนักงานสาขาต่างประเทศหากไม่ได้ใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพให้ยุบรวม หรือ ขายทรัพย์สิน ส่วนบริษัทลูกก็ให้ลดสำนักงานที่ตั้งโดยเฉพาะในประเทศไทยให้ลดและมารวมกันที่ สำนักงานสาขาหลานหลวง ส่วนการเพิ่มรายได้ให้เพิ่มสัดส่วนรายได้ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นในส่วนของแผนการจัดหาเครื่องบินนั้นให้จัดหาได้เพื่อทดแทนเครื่องเก่าที่ปลดระวาง และขั้นต่อไปหากมีการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารและเส้นทางบินเพิ่มขึ้นก็สามารถจัดหาเพิ่มได้เพื่อสร้างรายได้
สำหรับแผนฟื้นฟูองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)นั้นซึ่งตามแผนจะต้องลดค่าใช้จ่ายองค์กรลง ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ สร้างรายได้ และขั้นตอนต่อไปคือ การจัดหารถเมล์โดยสารไฮบริด(ดีเซล-ไฟฟ้า) จำนวนกว่า 2,700 คัน เพื่อมาเสริมศักยภาพและยกระดับการให้บริการ ส่วนรูปแบบการดเนินการก็จะมีทั้งแบบเช่าและแบบซื้
