ลิสซิ่ง-จำนำทะเบียนรถนอกลู่มีหนาวอีก ทนายมือฉมังจากมูลนิธิสมาน-ยินดีพร้อมรับหน้าสื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ให้คำปรึกษาทางกฏหมายโดยไม่คิดใช้จ่าย พร้อมประสานศูนย์ดำรงธรรมเปิดสายด่วนให้คำปรึกษาทั่วประเทศ ขณะคลังยันยกร่างกฎหมายใหม่ ยันไม่กระทบนอนแบงก์ที่ทำถูกกฎหมาย
นายยิ่งศักดิ์ แตงฮ่อ ทนายความและกรรมการบริหาร มูลนิธิสมาน-ยินดี แตงฮ่อ เปิดเผยว่า จากการที่มีกระแสข่าวประชาชนในระดับรากหญ้า ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกบริษัทลิสซิ่ง และธุรกิจปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบีบนรถเอารัดเอาเปรียบ โดยทำสัญญาเงินกู้ขูดรีดดอกเบี้ยอย่างผิดกฏหมายนั้น ทางมูลนิธิพร้อมจะให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหาดังกล่าว โดยสามารถร้องเรียนหรือปรึกษามายังมูลนิธิได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมามูลนิธิได้รับการ ร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมากถึงพฤติกรรมปล่อยเงินกู้หรือให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถของบริษัทลิสซิ่งและธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่มีการจะทำสัญญาเอาเปรียบลูกหนี้ โดยนอกจากจะคิดดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูงเกิน 15%แล้ว ยังบังคับหลักประกันเอาจากลูกหนี้ รวมทั้งบังคับให้ลูกหนี้เซ็นต์เอกสารโอนลอยเพื่อบังคับหลักประกันกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามสัญญาอีกด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบสัญญาเบื้องต้นพบว่ามีหลายบริษัททำสัญญาอย่างผิดกฎหมาย ไม่เป็นไปตามใบอนุญาตประกอบกิจการที่มี
ทั้งน้ีส่วนใหญ่ธุรกิจเหล่านี้จะหลบเลี่ยงการทำสัญญาเช่าซื้อ เพราะต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์เป็นของบริษัทแล้วให้ชาวบ้านเช่าซื้อผ่อนเป็นงวดๆไป แต่บริษัทเหล่านี้ก็อ้างเป็นสินเชื่อภายใต้การกำกับ “นาโน ไฟแนนซ์”และสินเชื่อรายย่อย “พิโก้ ไฟแนนซ์” ที่ให้ผู้ประกอบการคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมได้ถึง 3% ต่อเดือนหรือ 36%ต่อปี แต่นาโนไฟแนนซ์นั้น ต้องเป็นสินเชื่อไร้หลักประกันที่เจ้าหนี้ไม่สามารถเนียกหลักประกันจากลูุกหนี้ได้ ขณะที่พิโก้ ไฟแนนซ์ แม้จะเรียกหลักประกันได้ แต่ผู้ประกอบการต้องมีใบอนุญาต
“ที่ตรวจสอบสัญญานั้นส่วนใหญ่พวกนี้ไปปล่อยเงินกู้แล้วเรียกทะเบียนรถจักรยานยนต์ แล้วให้ลูกหนี้ทำโอนลอยไว้จึงไม่เป็นเช่าซื้อ เป็นเพียงเงินกู้เรียกหลักประกันเท่านั้น ไม่เข้าเงื่อนไขที่จะเรียกดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ ทั้งนี้หากประชาชนไม่มั่นใจสามารถเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศได้ โดยทางมูลนิธิพร้อมที่จะประสานส่งข้อมูล หรือยินดีให้คำปรึกษาทางกฏหมายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย”
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าของการยกร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินนอกกำกับธนาคารแห่งประเทศไทย (Non-Bank)ว่าอยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ ก่อนนำเสนอ รมว.คลังและเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อพิจารณาเห็นชอบ โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยืนยันว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะไม่กระทบต่อผู้ประกอบการนอนแบงก์ที่ดำเนินธุรกิจตามกรอบของกฎหมายเช่น การคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี ยกเว้นสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และพิโกไฟแนนซ์ที่มีกฎหมายกำหนดชัดเจนให้คิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมไม่เกิน 36% ต่อปี แต่สำหรับผู้ประกอบการบางรายที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดจะได้รับผลกระทบหลังกฎหมาย