ค่ายชบาแดง! บนเส้นทางวิบาก(กรรม)

0
1640

สมรภูมิรถใหญ่เมืองไทยมีค่ายรถบรรทุกหลากหลายสายพันธุ์ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และจีนเปิดศึกการตลาดชิงไหวชิงพริบดุเดือดต่อเนื่องทุกปี และแต่ละค่ายกว่าจะมีวันนี้ได้ก็ล้วนผ่านร้อนผ่านหนาวและมีเรื่องเล่าขานเป็นตำนานด้วยกันทั้งนั้น

ค่ายชบาแดง หรือรถบรรทุกฟูโซ่จากแดนปลาดิบ ก็เป็นอีกหนึ่งค่ายรถใหญ่ที่มี “เรื่องเล่า-เร่าร้อน” พลางสร้างอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์บนเส้นทางรถบรรทุกเมืองไทย

หากยังจำกันไม่ได้ ปิศาจขนส่ง ขอทวนความหลังย้อนเวลากลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตันจงฯกรุ๊ป กลุ่มธุรกิจยานยนต์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ได้เซ็นสัญญาเป็นผู้แทนจำหน่ายรถบรรทุกฟูโซ่ในประเทศไทยภายใต้บจก.ฟูโซ่ ทรัค (ประเทศไทย) กับบจก.มิตซูบิชิ ฟูโซ่ ทรัค แอนด์ บัส คอร์เปอร์เรชั่น ( MFTBC)ประเทศญี่ปุ่น บริษัทลูกเดมเลอร์ฯประเทศเยอรมัน

ตลอดระยะ 5-6 ปีที่รถบรรทุกฟูโซ่ในอ้อมอกตันจงฯกรุ๊ปภายใต้การกุมบังเหียนของแม่ทัพคนไทย ขับเคลื่อนแบรนด์ฟูโซ่เข้าสู่สมรภูมิรถใหญ่เมืองไทย และมียอดขายขยับสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี เคยทำสถิติสูงสุด 250 คันต่อเดือน และสร้างปรากฎการณ์เป็นเจ้าตลาด“รถบรรทุกดัมพ์”ขนาดแรงม้าไม่เกิน 300 แรงม้า โดยครองสัดส่วนตลาดในเซกเม้นต์นี้มากกว่า 60 %

ช่วงที่พีคสุดในปีสุดท้ายก่อนจะถูกเดมเลอร์ฯปฏิบัติการ “ยีดแบรนด์คืน”แบบสายฟ้าแลบ เคยทำสถิติยอดขายสูงถึงกว่า 700 คัน ช่วยเพิ่มมาร์เก็ตแชร์จากเดิมที่ไม่ถึง 2 % ทะยานสูงถึง 7% มีรถบรรทุกฟูโซ่โลดแล่นบนท้องถนนเมืองไทยแล้วเกือบหมื่นคัน ผู้ประกอบการขนส่งไทยกำลังมั่นใจในสินค้าและบริการหลังการขายมากขึ้นทุกขณะ และที่สำคัญทิศทางการเติบโตกำลังไปได้สวย

แต่แล้วฟ้าก็ฝ่าเปรี้ยงกลางใจตันจงฯกรุ๊ป เมื่อ MFTBCไม่ยอมจรดปลายปากกาต่อสัญญาให้กับตันจงฯกรุ๊ปเป็นผู้แทนจำหน่ายรถบรรทุกฟูโซ่ในประเทศไทยอีกต่อไป (31 มี.ค.2559 วันสิ้นสุดสัญญา) จนเกิดมหากาพย์ปะทุไฟ “ความขัดแย้ง” ลุกลามบานปลายจนถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องกันไปมาอุดหลุดชนิด “แตกหัก”กันไปข้าง

ช่วงรอยต่อการห้ำหั่น “ความขัดแย้ง-แตกหัก”ที่ยืดเยื้อไปกว่า 1 ปีนั้น ถือเป็นการสูญเสีย“โอกาสทองฝังเพชร” ทางธุรกิจในทิศทางที่ควรจะเป็นทั้งที่อยู่ห้วงขาขึ้น พร้อมกระแทกซ้ำชะตากรรมรถบรรทุกฟูโซ่ให้ “แขวนอยู่บนเส้นด้าย” และกลายเป็น “โศกนาฏกรรม”ของรถบรรทุกฟูโซ่ในประเทศไทยอย่างแท้จริง

ยอดขายที่กำลังดีวันดีคืนก็ตกฮวบฮาบ ความเชื่อมั่นของลูกค้าทีมีต่อแบรนด์ฟูโซ่ก็ดิ่งเหวทิ้งวาทกรรมสุดหดหู่ “ฟูโซ่ขายแล้ว…ทิ้ง” ไฟลามทุ่งไปถึงฟูโซ่ทรัคประเทศไทยที่กำลังแข็งแกร่งและมีศักยภาพก็ต้องถึงคราผ่าตัดองค์กรขนานใหญ่ จนกลายเป็น “ผึ้งแตกรัง” ส่วนดีลเลอร์ทั่วประเทศโดยเฉพาะ 9 ดีลเลอร์เกรด A+ก็ถูกจับเซ็นสัญญากวาดเข้ารังเรียบร้อยโรงเรียนเดมเลอร์ฯนอกนั้นถูก “ลอยแพ”

บริบทสุดท้ายเหลือไว้แค่ความทรงจำปนดราม่าแบบงงๆสะเทือนวงการรถใหญ่เมืองไทย!

หลังปล่อยช่องวางการตลาดไปนานกว่าขวบปี จนกระทั่ง (8 มิ.ย.2560 งานมหกรรมรถบรรทุกนานาชาติ 2017 เมืองทองธานี) ค่ายรถบรรทุกฟูโซ่ ก็ได้ฤกษ์ปรากฏโฉมใหม่ภายใต้อ้อมอกอ้อมใจ บริษัท เดมเลอร์ คอมเมอร์เชียล วีฮีเคิลส์ (ประเทศไทย) จํากัด หรือ ดีซีวีที บริษัทลูกเดมเลอร์ฯยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยานยนต์โลก เป็นผู้จัดจำหน่ายรถบรรทุกฟูโซ่ในประเทศไทย

โดยประกาศชัดถึงความมุ่งมั่นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งสู่ตลาดประเทศไทย ด้วยการขยายธุรกิจการดำเนินงานของรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ยี่ห้อ “ฟูโซ่” คู่ขนานกับการเปิดตัว “ฟูโซ่ลีสซิ่ง” (Fuso Leasing) เพื่อรองรับความต้องการแบบเต็มศักยภาพให้กับลูกค้าชาวไทย และเป็นการขยายการเติบโตในไทยก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายปีเดียวกัน

นัยสำคัญต่อการขยับครั้งนี้ได้ประกาศแต่งตั้ง “มร.ซาช่า ริคาเน็ค”ให้ดำรงตำแห่งประธานกรรมการบริหารของดีซีวีทีเป็นคนแรก ที่การันตีได้ถึงประสบการณ์กว่า 15 ปีที่ร่วมงานกับเดมเลอร์ทั้งในเอเชียและยุโรป และตอกย้ำถึงความเก๋าเกมในแวดวงรถใหญ่ร่วม 10 ปี

ท่ามกลางสายตาจับจ้องเป็นพิเศษของผู้ประกอบการตัวพ่อในแวดวงตลาดรถใหญ่เมืองไทยว่ายี่ห้อ “ฟูโซ่”ภายใต้ชายคาหลังใหม่หลังเผชิญวิบากกรรมกว่าขวบปี และกลยุทธ์การตลาดภายใต้ขุมกบาลของผู้บริหารสูงสุดที่ส่งตรงจากเยอรมัน

จะกลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาวนำทัพสู้ศึกตลาดรถใหญ่เมืองไทยได้สักกี่มากน้อย? จะสามารถพลิกฟื้นความเชื่อมั่นจากปากเหวขึ้นมาได้หรือไม่? ยอดขายพุ่งจะพุ่งกระฉูดอย่างที่คาดหวังหรือไม่? หรือทิศทางการบริการจัดการจะพลิกโฉมไปจากครรลองบ้านหลังเก่าหรือไม่?

จากนั้นมร.ซาช่า ก็เดินเครื่องกลยุทธ์การตลาดเต็มสูบ ทั้งการฟูโซ่ลีสซิ่ง หวังเป็นการนำเสนอการให้บริการทางการเงินที่มีความยืดหยุ่นต่อตลาดในประเทศไทย ฟูโซ่ โพรเทคชั่น การบริการประกันภัยที่มุ่งเน้นกลุ่มรถบรรทุกเป็นสำคัญ รวมถึงฟูโซ่ ออยล์ ด้วยแบรนด์และบริการของฟูโซ่นี้จัดตั้งขึ้นพิเศษเพื่อตลาดประเทศไทย เพื่อจะนำเสนอและตอบสนองสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในประเทศไทยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน พร้อมปูพรมขยายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

และล่าสุดได้เปิดตัวรถบรรทุกเพื่อการก่อสร้างรุ่นใหม่ล่าสุด FJ 2528C ย้ำความเป็นผู้นำของกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการก่อสร้างในไทย พร้อมด้วยบริการแบบครบวงจร One Stop Service เพื่อมอบความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจให้กับลูกค้าให้มากที่สุด

แต่ทว่า ผลงานด้านยอดขายภายใต้การกุมบังเหียนของมร.ซาช่า ยังไม่เข้าตากรรมการเท่าไหร่นักเมื่อวัดจากยอดขายปีแรก(2560)ที่เขารับบทบาทเป็นแม่ทัพยังไม่ถึง 200 คัน ยิ่งเมื่อนำไปเทียบกับยอดขายของดิสทริบิวเตอร์รายเดิมก็ยิ่งเทียบกันไม่ติด ครั้นพอถึงปีนี้ก็ต้องลุ้นตัวโก่งว่ายอดขายจะดีดตัวสูงขึ้นจากปีที่แล้วสักกี่มากน้อย

เหนือสิ่งอื่นใดปมร้อนฉ่าที่ปล่อยเปลวความร้อนเล็ดลอดสู่วงนอก คงหนีไม่พ้นแนวทางการทำตลาดที่เขายังยึดอีโก้แนวทางตลาดของตัวเองจนสุดโต่ง โดยไม่มีท่าที “สนใจ-เข้าใจ” ถึงรากเหง้าและธรรมชาติตลาดรถบรรทุกเมืองไทย จนดีลเลอร์หลายรายออกอาการ… “ไม่ปลื้ม” (นะจ๊ะ)

หากจะว่าไปตามความเป็นจริงก็ควรจะให้ “เวลา-โอกาส”กับการโม่แป้งการตลาดตามตำราของแม่ทัพท่านนี้ก็ตาม ทว่า หากยังดื้อรั้นและมั่นใจเต็มประดาพลางงมโข่งกับแนวทางการตลาดตำรา “ฝรั่งมังค่า”โดยไม่ยอมปรับขบวนทัพเข้าทำนอง “I don’t care” บรรดาเสียงนกเสียงกาแล้วล่ะก็

ปิศาจขนส่ง เอาคอไก่บักโจ้นบ้านโคกอีแหล่วเป็นประกัน…เส้นทางวิบาก(กรรม)ค่ายชบาแดง..ยังไม่หยุดแค่นี้แน่!